LUTON TOWN

ประวัตินักฟุตบอล

สโมสรฟุตบอลลูตัน ทาวน์

สโมสรฟุตบอลลูตัน ทาวน์ (Luton Town Football Club) สโมสรน้องใหม่ที่ขึ้นมาจากแชมเปี้ยนชิพ หากนับตั้งแต่ปี ค.ศ 2014 (คาดว่าเป็นยุคคอบอลรุ่นใหม่)อาจจะยังไม่คุ้นชื่อกัน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะฤดูกาลล่าสุด 2023/2024 พวกเขาขึ้นสู่ลีกสูงสุดด้วยอันดับที่ 3 แต่พอได้ขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ด้วยประสบการณ์ที่อ่อนกว่า ทำให้ฟอร์มของพวกเขาไม่สามารถที่จะเล่นตามเป้าที่คาดหวัง แต่อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะพามาชมประวัติตั้งแต่ก่อตั้งความสำเร็จเกียรติยศ และยุคต่างๆสำคัญ ให้กับแฟนบอลได้ทำความรู้จักทีมนี้มากยิ่งขึ้น

สโมสรฟุตบอลลูตัน ทาวน์
สโมสรฟุตบอลลูตัน ทาวน์

ประวัติสโมสรลูตัน ทาวน์

ประวัติสโมสรลูตัน ทาวน์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 1885 โดยมีชื่อเล่นว่า เดอะแฮตเตอร์ส เนื่องจากความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองกับ การค้าขายหมวก ซึ่งเมืองแห่งนี้ก่อนหน้า เคยมีสโมสรที่มีชื่อเสียง ที่โดดเด่นที่สุดคือ ลูตันพเนจร และ ลูตันเอ็กเซลซิเออร์ จอร์จ ดีคอน จนกระทั่งวันหนึ่ง Wanderers (คนพเนจร) เกิดความคิดขึ้น อยากจะรวมทีมทั้งสองเข้าด้วยกันและคัดตัวผู้เล่นที่เก่งที่สุดเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งทางสมาคมก็เห็นด้วยจึงจัดประชุมลับกับ จอร์จ ดีคอน ในวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1885 โดยใช้สถานที่โรงเรียน เซนต์แมทธิวส์ ใน ไฮทาวน์ จัดประชุมขึ้นในครั้งนั้น และก็เป็นไปได้ด้วยดี จึงมีมติรวมทั้ง 2 ทีมเข้าด้วยกันโดยให้ชื่อเรียกว่า ลูตัน ทาวน์ 

สนามแรกของพวกเขาตั้งอยู่ที่ ดัลโลว์ เลน จากเอ็กเซลซิเออร์ (Dallow Lane ของ Excelsior) ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรจากการรวมทีม พวกเขาเริ่มจ่ายเงินให้กับผู้เล่นบางคนในปี ค.ศ. 1890 ในปีต่อมา ลูตัน กลายเป็นสโมสรแรกในภาคใต้ของอังกฤษที่มีความเป็นมืออาชีพสูง  สโมสรนี้ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้ง Southern Football League อีกด้วย ในฤดูกาล 1894–95 จบอันดับรองชนะเลิศในสองฤดูกาลแรก และได้ย้ายเข้าร่วมรายการ ยูไนเต็ดลีก แต่ก็ยังคงความแข็งแกร่งจบอันดับที่ 2 เช่นเคย ก่อนที่จะเข้าร่วมฟุตบอลลีก หรือที่รู้จักกันในปัจจุบันว่า (EFL) ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปยังพื้นที่ใหม่ที่ถนนดันสเตเบิล ทางสโมสรยังคงร่วมกับ ยูไนเต็ดลีก ต่ออีก 2 ฤดูกาล สามารถคว้าแชมป์ได้ในปี ค.ศ. 1897–98 นั้นเอง

ประวัติสโมสรลูตัน ทาวน์
ประวัติสโมสรลูตัน ทาวน์

ต้นศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1900-1950)

แปดปีหลังจากมาถึงถนนดันสเตเบิล ลูตัน ก็ย้ายอีกครั้งโดยตั้งรกรากที่สนามปัจจุบันของพวกเขาที่ถนนเคนิลเวิร์ธ ในปี ค.ศ. 1905 เป็นช่วงที่ทีมของพวกเขาเริ่มมีชื่อเสียง และเมื่อกัปตันทีมอย่าง บ็อบ ฮอว์กส์ กลายเป็นผู้เล่นระดับนานาชาติคนแรกของลูตัน เมื่อเขาถูกเรียกชื่อติดทีมชาติเล่นให้อังกฤษ ในเกมที่ต้องพบกับ ไอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1907 แต่ความยินดีก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อ 4 ปีต่อมา กลายเป็นฤดูกาลที่ย่ำแย่ของพวกเขาอย่างมาก ลูตันตกชั้นไปดิวิชั่นสองของลีกใต้ ก่อนจะฟอร์มทีมขึ้นมาใหม่ด้วยความแข็งแกร่ง อีก 2 ปีถัดมามันจึงทำให้พวกเขาก้าวขึ้นสู้ลีกสูงสุดอีกครั้ง 

หลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งปะทุขึ้น Luton เข้าร่วมในThe London Combine ระหว่าง ค.ศ. 1915–16 และหลังจากนั้นก็เต็มไปด้วยการแข่งขันนัดกระชับมิตรในแต่ละฤดูกาล ผู้เล่นคนสำคัญของยุคนี้คือ เออร์นี่ ซิมส์ กองหน้าจอมถล่มประตู ถูกเรียกให้ไปประจำการที่แนวหน้า ก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บแล้วส่งตัวกลับมา หลายคนเชื่อว่าเขาอาจจะหายได้ในเร็ววันหรืออาจจะไม่ แต่แล้วอาการของเขาดีขึ้นและกลับมาหายเป็นปกติ กลับมายึดตำแหน่งตัวจริง และยิงได้ 40 ประตูในช่วงฤดูกาล 1916–17 ซึ่งในช่วงแรกพวกเขาใช้ชุดแข่งเป็นเสื้อสีขาวล้วน กางเกงสีดำ และไม่นานหลังขยับขึ้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งพวกเขาก็เปลี่ยนมาใช้เสื้อเชิ้ต สีฟ้า กางเกงสั้นสีขาวถุงเท้าสีกรมท่า

ต้นศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1900-1950)
ต้นศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1900-1950)

ยุค ดันแคน (1950–1965)

ในช่วงต้นทศวรรษ 1950 สโมสรลูต้นทาวน์ อยู่ภายใต้ผู้จัดการทีม ดาลลี่ ดันแคน ทีมงานประกอบด้วย กอร์ดอน เทิร์นเนอร์และ Bob Morton ในยุคนี้พวกเขาเสริมแกร่งโดยประตูมือดีดีกรีทีมชาติอังกฤษถึง 2 คน ช่วงแรกที่เขาเข้ามาคุมทำเหมือนจะเป็นไปด้วยดีแต่แล้วเรื่องไม่น่าคาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาดันตกชั้น ในฤดูกาลถัดมา ดาลลี่ ดันแคน แม้จะพาทีมเข้าไปชิงในรอบ FA Cup แต่ก็ไม่สามารถคว้าชัยได้ทำให้  น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ ฤดูกาล 1958–59 

แม้พวกเขาจะเผชิญกับการตกชั้น แต่นักเตะของพวกเขา ได้รับเลือกเป็น นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ FWA เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ของรางวัลนั้นคือ ซิด โอเว่น และยังเป็นผู้ถือครองสถิติลงเล่นให้กับสโมสรมากที่สุด ยังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของ Luton อีกด้วย

กลับสู่ความสำเร็จในช่วงปลายศตวรรษ (1965–1992)

ลูนตัน ทาวน์ เริ่มต้นยุค 1965–1992 จากการเป็นทีมระดับดิวิชัน 4 ของอังกฤษ โดยในยุคนี้ ลูนตัน ทาวน์ ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร โดยสามารถคว้าแชมป์ดิวิชัน 4 ได้ถึง 3 สมัย เมื่อปี 1966, 1972 และ 1980 ส่งผลให้สโมสรได้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 3 ในปี 1967 และดิวิชัน 2 ในปี 1973

นอกจากผลงานในสนามที่ดีแล้ว ลูนตัน ทาวน์ ยังมีแฟนบอลที่เหนียวแน่นและภักดีต่อสโมสรเป็นอย่างมาก โดยในยุคนี้ ลูนตัน ทาวน์ มีสถิติผู้ชมเฉลี่ยต่อนัดสูงถึง 10,000 คน ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับทีมในระดับดิวิชัน 4

ลูนตัน ทาวน์ มีนักเตะชื่อดังหลายคนที่เล่นให้กับสโมสร อาทิเช่น แกรี่ แกนส์, เดฟ โบว์ลส, จิม เพียร์สัน และ แพทริก โรบินสัน ซึ่งนักเตะเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการนำพาสโมสรประสบความสำเร็จในยุคนี้

ความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดของลูนตัน ทาวน์ ยุค 1965–1992 คือการคว้าแชมป์ดิวิชัน 4 ได้ถึง 3 สมัย ซึ่งช่วยให้สโมสรได้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 3 และดิวิชัน 2 ส่งผลให้สโมสรมีผลงานที่ดีขึ้นและประสบความสำเร็จมากขึ้น ความสำเร็จในช่วงปลายศตวรรษนี้ ส่งผลให้ลูนตัน ทาวน์ กลายเป็นหนึ่งในทีมระดับชั้นนำของอังกฤษในช่วงนั้น

ยุค ดันแคน (1950–1965)
ยุค ดันแคน (1950–1965)

ปัญหาการเงินและการหลุดนอกวงโคจรลีก (1992–2009)

ลูนตัน ทาวน์ เริ่มต้นยุค 1992–2009 จากการเป็นทีมระดับดิวิชัน 2 ของอังกฤษ โดยในยุคนี้ ลูนตัน ทาวน์ ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ทำให้สโมสรไม่สามารถแข่งขันกับทีมอื่นๆ ในลีกได้ ส่งผลให้สโมสรตกชั้นสู่ดิวิชัน 3 ในปี 1994 และดิวิชัน 4 ในปี 1996 นอกจากปัญหาทางการเงินแล้ว ลูนตัน ทาวน์ ยังประสบปัญหาด้านการบริหารสโมสรอีกด้วย ทำให้สโมสรขาดความต่อเนื่องในผลงาน ส่งผลให้สโมสรตกชั้นสู่ดิวิชัน 5 ในปี 2000 และดิวิชัน 6 ในปี 2002

ปัญหาทางการเงินของลูนตัน ทาวน์ เริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายยุค 1980 เมื่อสโมสรเริ่มประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สโมสรต้องขายนักเตะตัวหลักออกไป เพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้สิน เริ่มรุนแรงขึ้นในช่วงต้นยุค 1990 เมื่อสโมสรมีหนี้สินสะสมเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้สโมสรไม่สามารถแข่งขันกับทีมอื่นๆ ในลีกได้ ส่งผลให้สโมสรตกชั้นสู่ดิวิชัน 3 ในปี 1994 และดิวิชัน 4 ในปี 1996

การที่พวกเขาตกชั้นสู่นอกลีก มีสาเหตุหลักมาจาก การเงินและการบริหารสโมสร ที่ไม่ต่อเนื่องและติดขัด ปัญหาทางการเงินและปัญหาด้านการบริหารสโมสรของลูนตัน ทาวน์ ส่งผลให้สโมสรตกชั้นสู่ดิวิชัน 5 ในปี 2000 และดิวิชัน 6 ในปี 2002 โดยในฤดูกาล 2008–09 ลูนตัน ทาวน์ จบอันดับที่ 22 ของดิวิชัน 6 ทำให้สโมสรตกชั้นสู่ระดับนอกลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร การตกชั้นสู่นอกลีกของลูนตัน ทาวน์ ถือว่าเป็นจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์สโมสร และถือเป็นการสิ้นสุดยุคแห่งความรุ่งเรืองของสโมสร

จากนอกลีกสู่พรีเมียร์ลีก (2009–ปัจจุบัน)

ลูนตัน ทาวน์ เริ่มต้นยุค 2009–ปัจจุบัน จากการเป็นทีมระดับนอกลีก โดยในยุคนี้ ลูนตัน ทาวน์ ใช้เวลาเพียง 10 ปี ในการเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรในรอบกว่า 20 ปี

การฟื้นตัวสู่ลีกระดับล่าง

หลังจากตกชั้นสู่นอกลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ลูนตัน ทาวน์ เริ่มต้นการฟื้นตัวขึ้นสู่ลีกระดับล่าง โดยสโมสรสามารถเลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 5 ในฤดูกาล 2009–10 และดิวิชัน 4 ในฤดูกาล 2010–11 ในฤดูกาล 2011–12 ภายใต้การคุมทีมของโจนาธาน วอร์เนอร์ จบอันดับที่ 3 ของดิวิชัน 4 ส่งผลให้สโมสรได้เลื่อนชั้นสู่ลีกทู

การเลื่อนชั้นสู่ลีกวัน
การเลื่อนชั้นสู่ลีกวัน

การเลื่อนชั้นสู่ลีกวัน

ในฤดูกาล 2012–13 ลูนตัน ทาวน์ ภายใต้การคุมทีมของโจนาธาน วอร์เนอร์ จบอันดับที่ 2 ของลีกทู ส่งผลให้สโมสรได้เลื่อนชั้นสู่ลีกวัน

การเลื่อนชั้นสู่ลีกวัน ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของลูนตัน ทาวน์ เนื่องจากเป็นลีกระดับอาชีพสูงสุดของประเทศอังกฤษรองจากพรีเมียร์ลีก

การเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก

ในฤดูกาล 2022–23 ลูนตัน ทาวน์ ภายใต้การคุมทีมของเดวิด เพอร์รี จบอันดับที่ 2 ของแชมเปียนชิพ ส่งผลให้สโมสรได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรในรอบกว่า 20 ปี

การเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ถือเป็นจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสรลูนตัน ทาวน์ สโมสรที่เคยตกชั้นสู่นอกลีกมาแล้ว ใช้เวลาเพียง 10 ปี ในการกลับสู่ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ

เกียรติประวัติของสโมสรฟุตบอลลูตัน ทาวน์

ดิวิชัน 4: ชนะเลิศ (3 สมัย) 1966, 1972, 1980
ดิวิชัน 3: อันดับ 4 (1 สมัย) 1973
ดิวิชัน 2: อันดับ 16 (1 สมัย) 1973