โปรแกรมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024-25

WEEK17

21 - 22 ธันวาคม 2024

WEEK16

14 - 17 ธันวาคม 2024

WEEK15

7 - 10 ธันวาคม 2024

WEEK14

5 - 6 ธันวาคม 2024

WEEK13

30 - 2 ธันวาคม 2024

WEEK12

22 - 25 ธันวาคม 2024

WEEK11

10 - 11 พฤศจิกายน 2024

WEEK10

2 - 5 พฤศจิกายน 2024

WEEK9

26 - 28 ตุลาคม 2024

WEEK8

19 - 22 ตุลาคม 2024

WEEK7

5 - 7 ตุลาคม 2024

WEEK6

28 - 1 ตุลาคม 2024

WEEK5

21 - 23 กันยายน 2024

WEEK4

14 - 16 กันยายน 2024

WEEK3

31 - 2 กันยายน 2024

WEEK2

24 - 26 กรกฎาคม 2024

WEEK1

17 - 20 กรกฎาคม 2024

เจย์ โรดริเกซ

Jay Rodriguez

ช่องทางติดตาม :

สถิติ ผลงานในพรีเมียร์ลีก

เกียรติประวัติและรางวัล

  • ฤดูกาล 2022/23

เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez)

เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez) เกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 อายุ 34 ปี เกิดในเมืองเบิร์นลี่ย์ ของประเทศ อังกฤษ ที่ปัจจุบันกำลังค้าแข้งอยู่ในลีกเมืองผู้ดีกับทางสโมสร “เดอะคลาเรตส์” เบิร์นลี่ย์ สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อหมายเลข 9 ลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับสโมสรในชุดปัจจุบัน

เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez)
การเริ่มต้นในอาชีพค้าแข้งของ เจย์ โรดริเกซ

การเริ่มต้นในอาชีพค้าแข้งของ เจย์ โรดริเกซ

โรดริเกซ ได้เซ็นสัญญาครั้งแรกกับสโมสร เบิร์นลีย์ และภายหลังจากที่เขาลงทำการแข่งขันให้กับทีมเยาวชนของสโมสร โรดริเกซ ก็ได้รับการเลื่อนชั้นสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2006–07 แถมเจ้าตัวยังเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ได้รับการเซ็นสัญญาจากผู้จัดการทีม เบิร์นลีย์อย่าง สตีฟ คอตเทริลล์ จากผู้เล่นเยาวชนเจ็ดคนที่มีอยู่ในทีมขณะนั้น

จากนั้นในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2550 โรดริเกซ ก็ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในการแข่งขันศึก แชมเปี้ยนชิพ โดยลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกมที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ บริสตอล ซิตี้ 1–0 ที่สนาม เทิร์ฟมัวร์ ซึ่งภายหลังที่เจ้าตัวอยู่ขาแข้งให้กับสโมสรได้สักระยะหนึ่ง ดูเหมือนว่าโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของเขาเริ่มลดน้อยลง จึงทำให้ โรดริเกซ ถูกปล่อยตัวให้กับบาร์นสลีย์ ยืมตัวไปใช้งาน ภายหลังจากที่สโมสรได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2009

เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez)
เซาแธมป์ตัน คว้าตัว โรดริเกซ เข้าร่วมทีม

เซาแธมป์ตัน คว้าตัว โรดริเกซ เข้าร่วมทีม

ในช่วงฤดูร้อนปี 2012 โรดริเกซ ได้รับความสนใจจากทีมใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทีมจาก แชมเปี้ยนชิพ อย่างสโมสร คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่ให้ความสนใจอยากได้ตัวเข้าไปร่วมทีมอยู่เช่นกัน แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ได้ตัดสินใจย้ายเข้าร่วมสโมสร เซาแธมป์ตัน เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ พร้อมกับตกลงเซ็นสัญญาค้าแข้งให้กับสโมสรเป็นระยะเวลาสี่ปี และได้รับโอกาสลงเปิดตัวในนัดเปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก 2012-13 ในเกมที่เปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 55 ของเกมการแข่งขัน

จากนั้นในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556 โรดริเกซ ก็สามารถยิงประตูแรกของฤดูกาล 2013-14 ได้ในศึก ลีกคัพ ที่เป็นฝ่ายเอาชนะ บาร์นสลีย์ 5–1 และ ต่อด้วยในวันที่ 2 ธันวาคม โรดริเกซ ก็กลายเป็นผู้เล่นในเวที พรีเมียร์ลีก ที่ยิงประตูเร็วที่สุดด้วยเวลาเพียงวินาทีที่ 15 ในเกมการแข่งขันที่พ่ายแพ้ให้กับ เชลซี 3-1 ซึ่งภายหลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย เจย์ โรดริเกซ ก็ได้รับการขยายสัญญาฉบับใหม่กับ เซาแธมป์ตัน ออกไปอีกสี่ปี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez)
เจย์ โรดริเกซ ย้ายร่วมทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

เจย์ โรดริเกซ ย้ายร่วมทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โรดริเกซ ได้ย้ายไปยังเกาะอังกฤษเพื่อเข้าร่วมค้าแข้งให้กับสโมสร เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ พร้อมกับตกลงเซ็นสัญญาค้าแข้งให้กับสโมสรเป็นระยะเวลาสี่ปี ก่อนที่เขาจะได้รับโอกาสลงเปิดตัวให้กับสโมสรเป็นครั้งแรกในนัดเปิดฤดูกาล 2017-18 ด้วยการคว้าชัยชนะเหนือ เอฟซี บอร์นมัธ 1-0 เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม และ สามารถยิงประตูแรกให้กับสโมสรได้ในอีกสิบวันต่อมาในการแข่งขันของศึก คาราบาวคัพ ที่เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะเหนือทีมจากลีกทูอย่าง แอคคริงตันสแตนลีย์ 3-1

เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez)
โรดริเกซ ย้ายกลับเข้าร่วมสโมสร เบิร์นลี่ย์ อีกครั้ง

โรดริเกซ ย้ายกลับเข้าร่วมสโมสร เบิร์นลี่ย์ อีกครั้ง

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 โรดริเกซ ได้ย้ายกลับเข้าร่วมสโมสร เบิร์นลี่ย์ อีกครั้งด้วยค่าตัวเริ่มต้นที่ 5 ล้านปอนด์ และ จะจ่ายเพิ่มให้อีก 5 ล้านปอนด์หลังจาก 12 เดือนก่อนที่จะมีการตกลงเซ็นสัญญาค้าแข้งให้กับสโมสรเป็นระยะเวลาสองปี จากนั้นในวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2564 โรดริเกซ ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเหมายิงคนเดียว 4 ประตูในรายการ ลีกคัพ ช่วยให้สโมสรเอาชนะ รอชเดล 4-1

ซึ่งภายหลังจากที่เขาย้ายมาอยู่กับสโมสร เบิร์นลี่ย์ เขาก็เป็นผู้เล่นตัวหลักให้กับสโมสรมาโดยตลอดจนสามารถพาทัพ เดอะคลาเรตส์ เลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023-24 ได้สำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ อีเอฟแอลแชมเปี้ยนชิพ 2022–23 ในรอบเพลย์ออฟ

เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez)
สไตล์การเล่นฟุตบอลของ โรดริเกซ

สไตล์การเล่นฟุตบอลของ โรดริเกซ

โรดริเกซ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าที่มีความยอดเยี่ยมในเรื่องของเทคนิค และ ทักษะในการจบสกอร์ที่เฉียบขาด มีความคล่องแคล่วว่องไวในการเลี้ยงบอลเข้าไปทำประตูได้อย่างโดดเด่น มีความสามารถในการวางเท้ายิงประตูได้อย่างหนักหน่วง รวมไปถึงพละกำลังที่ต้องบอกว่า โรดริเกซ นั้นเป็นผู้เล่นที่มีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์มากถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะเข้าไวเลขสามแล้วก็ตาม

เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez)
การเข้าร่วมทีมชาติอังกฤษ ของ เจย์ โรดริเกซ

การเข้าร่วมทีมชาติอังกฤษ ของ เจย์ โรดริเกซ

ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 โรดริเกซ มีชื่อเข้าร่วมทีมชาติอังกฤษ ครั้งแรกในรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และ ได้รับโอกาสลงเปิดตัวในเกมระดับนานาชาติครั้งแรกในเกมนัดกระชับมิตรกับทีมชาติ อิตาลี รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

จากนั้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 โรดริเกซ ก็มีชื่อติดทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันนัดกระชับมิตรกับทีมชาติ ชิลี และ เยอรมนี พร้อมกับได้ลงเล่นให้กับทัพ สิงโตคำราม เป็นครั้งแรกในนัดที่เจอกับ ชิลี ที่สนาม เวมบลีย์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน

เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez)
เจย์ โรดริเกซ คว้าแชมป์ อีเอฟแอลแชมเปี้ยนชิพ 2022–23 - สำเนา

เกียรติประวัติและรางวัลในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ

เบิร์นลี่ย์

  • อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ : 2022–23
  • ฟุตบอลลีก แชมเปี้ยนชิพ เพลย์ออฟ : 2009

เซาแธมป์ตัน

  • อีเอฟแอลคัพ รองชนะเลิศ: 2016–17
เจย์ โรดริเกซ (Jay Rodriguez)
เจย์ โรดริเกซ ดาวยิงตัวเก๋าของ เบิร์นลี่ย์

รางวัลส่วนตัว

  • นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของแฟนพีเอฟเอ : แชมเปี้ยนชิพ 2011–12
  • ทีมพีเอฟเอแห่งปี : แชมป์เปี้ยนชิพ 2011–12
  • นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเบิร์นลีย์ : 2010–11
  • นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของนักเตะเบิร์นลีย์: 2010–11


ปัจจุบัน เจย์ โรดริเกซ ถือเป็นผู้เล่นอีกหนึ่งคนสำคัญของสโมสร เบิร์นลี่ย์ ในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023-24 แต่ถึงแม้ว่าเจ้าตัวนั้นจะมีอายุ 34 ปี แต่ด้วยประสบการณ์ และ ความเก๋าเกมในการค้าแข้งของเจ้าตัว จะคงเป็นประโยชน์ให้กับทัพ เดอะคลาเรตส์ ไม่มากก็น้อยในฤดูกาล 2023-24

อ้างอิงข้อมูล : wikipedia