ไคล์ วอล์คเกอร์
Kyle Walker
- สัญชาติ : อังกฤษ
- วันเกิด : 28/05/1990
- ความสูง : 178 cm
- สโมสรฟุตบอล : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- เบอร์เสื้อ : 2
- ตำแหน่ง : กองหลัง
ช่องทางติดตาม :
สถิติ ผลงานในพรีเมียร์ลีก
- การลงลงเล่น : 367
- ทำประตู : 8
- แอสซิสต์ : 32
- ครีมชีส : 125
เกียรติประวัติและรางวัล
- แชมป์เอฟเอคัพ : 2 สมัย
- ฤดูกาล 2018/19
- ฤดูกาล 2022/23
- แชมป์คาราบาวคัพ : 4 สมัย
- ฤดูกาล 2017/18
- ฤดูกาล 2018/19
- ฤดูกาล 2019/20
- ฤดูกาล 2020/21
- แชมป์พรีเมียร์ลีก : 5 สมัย
- ฤดูกาล 2017/18
- ฤดูกาล 2018/19
- ฤดูกาล 2020/21
- ฤดูกาล 2021/22
- ฤดูกาล 2022/23
- แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 1 สมัย
- ฤดูกาล 2022/23
- แชมป์เอฟเอคอมมิวนิตี้ชิลด์: 1 สมัย
- ฤดูกาล 2018
- ฤดูกาล 2019
- แชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 1 สมัย
- ฤดูกาล 2023
ไคล์ วอล์คเกอร์(Kyle Walker)
ไคล์ วอล์คเกอร์(Kyle Walker) เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 อายุ 33 ปี เกิดในเมืองเชฟฟิลด์ ของประเทศ อังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเขากำลังค้าแข้งอยู่ในลีกเมืองผู้ดีกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรชั้นนำใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยสวมเสื้อหมายเลข 2 ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาให้กับสโมสร ซึ้ง วอล์คเกอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะตัวเก๋าของสโมสรที่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ต่างๆมาอย่างมากมายในช่วงที่เขานั้นค้าแข้งอยู่กับ เรือใบสีฟ้า
ไคล์ วอล์คเกอร์ ลืมต้นอาชีพค้าแข้งกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
เมื่อ วอล์คเกอร์ มีอายุได้เจ็ดขวบเขาได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้นก็ได้รับจากโอกาสจาก พอล อาร์เชอร์ ให้เข้าร่วมทีมสำรองของสโมสรและจะมีโอกาสลงสนามภายในปี พ.ศ. 2551 หลังจากที่ได้ฝึกซ้อมกับทีมสำรองได้ซักระยะหนึ่ง
เขาก็ได้ถูกปล่อยตัวให้ทีมในลีกวันอย่าง นอร์ธแธมป์ตันทาวน์ ยืมตัวไปใช้งานเพื่อหาประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรหลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายกลับมาที่เช็คฟิวส์ยูไนเต็ดอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมทีมชุดใหญ่ของสโมสรอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มกราคมพ.ศ 2552 ก่อนจะได้ลงเป็นตัวจริงในนัดแรกให้กับสโมสรในเกม เอฟเอคัพ รอบสามที่พบกับ เลย์ตัน โอเรียนท์
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คว้าตัว ไคล์ วอล์คเกอร์ เข้าร่วมทีม
ในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 สเปอร์ ได้ทำการเซ็นสัญญาคว้าตัว ไคล์ วอล์คเกอร์ และ ไคล์ นอตัน มาจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวรวมกัน 9 ล้านปอนด์ หลังจากนั้นเขาถูกสโมสรเก่ายืมตัวกับไปใช้งานในฤดูกาล 2009-10 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงของการย้ายทีม
และในฤดูกาลถัดมาเขาก็ถูกปล่อยตัวอีกครั้งให้กับ แอสตัน วิลล่า ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2010-11 และ ย้ายกลับเข้ามาร่วมทีมชุดใหญ่ของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในฤดูกาล 2011-12 วอล์คเกอร์ลงเล่นเป็นเกมแรกในเกมที่พบกับ แมนฯยูไนเต็ด และ กลายเป็นกำลังหลักสำคัญของไก่เดือยทอง มาโดยตลอด จนได้รับการต่อสัญญาระยะยาวกับทางสโมสรจนถึงปี 2560 ก่อนจะย้ายไป แมนฯซิตี้
แมนฯซิตี้ เซ็นสัญญาคว้าตัว ไคล์ วอล์คเกอร์ เสริมแผงหลัง
มื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 วอล์คเกอร์ ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมแมนซิตี้ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ พร้อมกับเซ็นสัญญาค้าแข้งให้กับทัพ เรือใบสีฟ้า เป็นระยะเวลา 5 ปี เขาลงเปิดตัวกับสโมสรเป็นครั้งแรกในวันที่ 22 สิงหาคม ในเกมที่พบกับ ไบรท์ตัน และคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ เป็นครั้งแรกกับสโมสรในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ภายใต้การทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา
จากนั้นเจ้าตัวก็ได้สร้างสถิติให้กับตัวเองด้วยการลงเล่นให้กับ แมนฯซิตี้ ครบ 100 นัดใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในเกมที่พบกับสโมสรเก่าอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด วันที่ 31 ตุลาคม 2020 ภายหลังจากการย้ายมาของ วอล์คเกอร์ เจ้าตัวถือเป็นนักเตะอีกหนึ่งคนสำคัญของทัพ เรือใบสีฟ้า ที่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ต่างๆได้อย่างมากมาย รวมถึงในฤดูกาลล่าสุดที่เขานั้นก็สามารถประสบความสำเร็จในความสามารถ ทริปเปิ้ลแชมป์ ได้ในฤดูกาล2022-23
สไตล์การเล่นฟุตบอลของไคล์ วอล์คเกอร์
ไคล์ วอล์คเกอร์ เป็นนักเตะกองหลังในตำแหน่งแบ็คขวาที่มีความแข็งแกร่งเป็นจุดเด่นในการเล่นฟุตบอล เขามีทั้งความคล่องแคล่ว ว่องไวมีการสกัดบอลได้อย่างหนักหน่วง แถมมีพละกำลังเติมเกมรุกได้อยู่ตลอดเวลา มีลูกยิงจากนอกกรอบเขตโทษที่ทรงพลัง แม้ว่าในตอนนี้เจ้าตัวจะมีอายุ 33 ปี แต่สภาพร่างกายนั้นถือว่ายังสมบูรณ์ และ แข็งแรงเป็นอย่างมาก
การเข้าร่วมทีมชาติอังกฤษ ของ ไคล์ วอล์คเกอร์
วอล์คเกอร์ ติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรกในรุ่นอายุไม่เกิน19 ปี ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์พ.ศ 2552 จากนั้นลงเล่นเป็นเกมแรกให้กับทีมชาติในเกมที่พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติสเปน ในเกมกระชับมิตร 0-3 และ ภายใต้การทำทีมของกุนซือใหญ่อย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต เจ้าตัวก็ได้รับโอกาสเรียกติดทีมชาติอยู่ตลอดเวลาในตำแหน่งแบ็คขวา จนมาถึงในฤดูกาลแข่งขันในรายการยูฟ่ายูโร 2020
ถือเป็นอีกครั้งที่น่าเสียดายของ วอล์คเกอร์ เนื่องจากเจ้าตัวนั้นสามารถพาทีมชาติอังกฤษ เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1966 ก่อนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ อิตาลี ในการดวลลูกจุดโทษ 3-2 หลังจากที่ทั้งสองทีมเสมอกันในเวลา 1-1 ในรอบชิงชนะเลิศ
เกียรติประวัติและรางวัลในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ
ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส
- ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิพ : 2010–11
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
- ฟุตบอลลีกคัพรองชนะเลิศ: 2014–15
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- พรีเมียร์ลีก : 2017–18,2018–19,2020–21 2021–22,2022–23
- เอฟเอ คัพ : 2018–19,2022–23
- อีเอฟแอล คัพ : 2017–18,2018–19,2019–20,2020–21
- เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ : 2018,2019
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 2022–23;รองชนะเลิศ: 2020–21
- ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2023
อังกฤษ U19
- แชมป์ยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีรองชนะเลิศ: 2009
อังกฤษ
- แชมป์ยุโรปยูฟ่ารองแชมป์: 2020
- อันดับสามยูฟ่าเนชันส์ลีก : 2018–19
รางวัลส่วนตัว
- ทีม แชมป์ยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีแห่งทัวร์นาเมนต์: 2011
- นักเตะดาวรุ่งแห่งปีของพีเอฟเอ : 2011–12
- ทีมพีเอฟเอแห่งปี : พรีเมียร์ลีก 2011–12,2016–17,2017–18
- ทีมแชมป์ยุโรปยูฟ่าทัวร์นาเมนท์ : 2020
- ทีมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแห่งฤดูกาล: 2022–23
เนื่องจาก แมนฯซิตี้ มีกองหลังไม่มากนักในตำแหน่งแบ็คขวา จึงทำให้สโมสรตัดสินใจปล่อยตัว แข่งชาวอังกฤษรายนี้ออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังมีหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปให้ความสนใจโดยเฉพาะ บาเยิร์น มิวนิค เนื่องจากทางสโมสรต้องการเก็บกองหลังตัวเก๋ารายนี้เอาไว้ช่วยสโมสรในการป้องกันแชมป์ในฤดูกาล 2023-24
อ้างอิงข้อมูล : wikipedia