เจมส์ วอร์ดพราวส์(James WardProwse)
เจมส์ วอร์ดพราวส์(James WardProwse) เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 อายุ 28 ปี เกิดในเมือง พอร์ตสมัธ ของประเทศ อังกฤษ ปัจจุบันกำลังค้าแข้งอยู่ในเกาะอังกฤษ กับทางด้าน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อหมายเลข 7 ลงเล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับสโมสร เจมส์ วอร์ดพราวส์ ถือเป็นนักเตะรายล่าสุดที่สโมสรนำตัวเข้ามาเสริมทัพเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในฤดูกาล 2023-24
การเริ่มต้นขาแข้งในอาชีพฟุตบอลของ เจมส์ วอร์ดพราวส์
เมื่ออายุ 8 ขวบ เจมส์ วอร์ดพราวส์ ได้เริ่มต้นในอาชีพฟุตบอลเป็นครั้งแรกด้วยการเข้าร่วมอะคาเดมี่ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก่อนที่เจ้าตัวจะได้รับโอกาสให้ลงเล่นกับทีมอายุต่ำกว่า 18 ปีในฤดูกาล 2010-11 แต่หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2554 สโมสร เซาแธมป์ตัน ก็ได้ส่งเขาไปฝึกซ้อมแบบลับๆในเมือง ฮาแวนท์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายให้กับตัวเอง เพื่อเตรียมตัวที่จะก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ของสโมสรในอนาคตนั่นเอง
เจมส์ วอร์ดพราวส์ ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เซาแธมป์ตัน
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 เจมส์ วอร์ดพราวส์ ถูกเรียกตัวเข้าร่วมทีมชุดใหญ่ของสโมสรเซาแธมป์ตันเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี และ ลงเปิดตัวให้กับสโมสรในฟุตบอล ลีกคัพ ที่พบกับคริสตัลพาเลซ ต่อด้วยลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในนัดเปิดฤดูกาล 2012-13 ที่พ่ายแพ้ให้กับแชมป์เก่าอย่าง แมนฯซิตี้ 3-2 หลังจากนั้นฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัวทำให้สโมสรตัดสินใจขยายสัญญากับ เจมส์ วอร์ดพราวส์ ออกไปอีกห้าปีครึ่ง ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2558
ก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะสามารถสร้างสถิติให้กับตัวเองด้วยการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ให้กับสโมสร เซาแธมป์ตัน เป็นจำนวน 330 นัด ในเกมที่พบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2516 แถมเจ้าตัวยังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองใน พรีเมียร์ลีก ด้วยการยิงฟรีคิกได้ทั้งหมด 12 ลูก ตามหลัง เดวิด เบ็คแฮม ที่เคยทำไว้สมัยค้าแข้งอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด จำนวน 18 ลูกเท่านั้นเอง ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไป เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในปี 2023-24
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คว้าตัว เจม วอร์ดพราวส์ เสริมแดนกลาง
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าตั๋ว เจมส์ วอร์ดพราวส์ เข้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ พร้อมกับเซ็นสัญญาค้าแข้งให้กับทัพ ขุนค้อน เป็นระยะเวลา 4 ปี หลังจากย้ายมาเขาเปิดตัวให้กับสโมสรเป็นครั้งแรกในวันที่ 20 สิงหาคมด้วยการทำสองแอสซิสต์ในเกมชนะ เชลซี 3-1
ก่อนที่เกมถัดมา เจมส์ วอร์ดพราวส์ จะสามารถยิงประตูแรกในการค้าแข้งให้กับสโมสร และ เป็นประตูที่ 50 ของเจ้าตัวในการค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก ในเกมที่เก็บชัยชนะเหนือ ไบรท์ตันแอนด์ โฮฟอัลเบียน 3-1 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2566 นี่เอง
สไตล์การเล่นฟุตบอลของ เจมส์ วอร์ดพราวส์
เเจมส์ วอร์ดพราวส์ เป็นนักเตะที่เล่นได้ทั้งตำแหน่งกองกลางตัวรุก กองกลางฝั่งขวา หรือ ในตำแหน่งแบ็คขวาเจ้าตัวก็สามารถเล่นได้ นอกจากเขาจะมีทักษะ และ เทคนิคในการครองบอล และจ่ายบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมที่ยอดเยี่ยมแล้ว จ้าตัวยังมีความโด่งดังในเรื่องของการยิงฟรีคิกที่เฉียบคมเป็นอย่างมาก ซึ่งขนาด เป๊ป กว่าดิโอล่า ยังออกมายกย่องกองกลางชาวอังกฤษ รายนี้ว่า เขาคือผู้เล่นที่ยิงฟรีคิกได้อันตรายที่สุดในวงการฟุตบอลในขณะนี้อีกด้วย
การเข้าร่วมทีมชาติอังกฤษของ เจมส์ วอร์ดพราวส์
เจมส์ วอร์ดพราวส์ ติดทีมชาติอังกฤษ เป็นครั้งแรกในชุดรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ก่อนที่เจ้าตัวจะโชฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนสามารถขยับขึ้นไปเล่นให้กับทีมชาติในรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556 เมื่อเขานั้นเมื่อเขานั้นอายุ 18 ปี ก่อนที่เจ้าตัวจะกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นของทีมชาติอังกฤษ ชุด U21 ปี ในการคว้าแชมป์ ตูลงทัวร์นาเมนต์ ปี 2014 ที่สามารถเอาชนะเจ้าภาพ ฝรั่งเศส 2-1 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
จากนั้นภายใต้การทำทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เจมส์ วอร์ดพราวส์ มีชื่อเข้าร่วมทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่ในรายชื่อ 33 คน เพื่อเตรียมตัวลงแข่งขันในศึกยูฟ่ายูโร 2020 ของวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ไม่ได้มีรายชื่อในการแข่งขันในรายการนี้ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ อีกครั้ง ในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งเขาถูกเรียกตัวมาแทนที่ของ คาลวิน ฟิลลิปส์ ที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อลงแข่งขันในฟุตบอลโลก 2022 ที่จะพบกับ อันดอร์ร่า และ ฮังการี
เกียรติประวัติและรางวัลในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ
เซาแธมป์ตัน
- คาราบาวคัพ รองชนะเลิศ: 2016–17
อังกฤษU21
- ตูลง ทัวร์นาเมนต์ : 2016
โดยเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า เจมส์ วอร์ดพราวส์ เป็นนักเตะที่มีทักษะการเล่นบอลที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะลูกฟรีคิกที่เจ้าตัวนั้นสามารถยิงได้อย่างอันตราย ซึ่งการย้ายเข้ามาร่วมทีม เวสต์แฮมยูไนเต็ด ในครั้งนี้จะช่วยยกระดับแผนกลางของทัพ ขุนค้อน ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน
อ้างอิง : Wikipedia