โปรแกรมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024-25

WEEK18

26 - 28 ธันวาคม 2024

WEEK17

21 - 22 ธันวาคม 2024

WEEK16

14 - 17 ธันวาคม 2024

WEEK15

7 - 10 ธันวาคม 2024

WEEK14

5 - 6 ธันวาคม 2024

WEEK13

30 - 2 ธันวาคม 2024

WEEK12

22 - 25 ธันวาคม 2024

WEEK11

10 - 11 พฤศจิกายน 2024

WEEK10

2 - 5 พฤศจิกายน 2024

WEEK9

26 - 28 ตุลาคม 2024

WEEK8

19 - 22 ตุลาคม 2024

WEEK7

5 - 7 ตุลาคม 2024

WEEK6

28 - 1 ตุลาคม 2024

WEEK5

21 - 23 กันยายน 2024

WEEK4

14 - 16 กันยายน 2024

WEEK3

31 - 2 กันยายน 2024

WEEK2

24 - 26 กรกฎาคม 2024

WEEK1

17 - 20 กรกฎาคม 2024

AFC BOURNEMOUTH

ประวัตินักฟุตบอล

สโมสรฟุตบอลบอร์นมัท

สโมสรฟุตบอล บอร์นมัท (Bournemouth Football Club) เป็นอีกหนึ่งสโมสรในเกาะอังกฤษ ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน แม้ในปัจจุบันคนยุคใหม่จะไม่ค่อยคุ้นชื่อกับสโมสรแห่งนี้ แต่ในอดีตนั้นสโมสรเคยประสบความสำเร็จมากมาย ไม่แพ้กับทีมอื่นในพรีเมียร์ลีกเลย พวกเขากลับมาโลดแล่น ในลีกสูงสุดอังกฤษอีกครั้งเมื่อฤดูกาล 2021/2022 แฟนบอลของ เดอะเชอร์รีส์ ยังคงรักในสโมสรของพวกเขาอย่างเหนียวแน่น และพร้อมสร้างชื่อให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งดั่งที่อดีตเคยเป็นมา

สโมสรฟุตบอลบอร์นมัท
สโมสรฟุตบอลบอร์นมัท

ประวัติสโมสรบอร์นมัท

สโมสรฟุตบอล บอร์นมัท (Bournemouth Football Club) ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1899 ในชื่อ บอสคอมบ์ แม้ว่าจะไม่ทราบวันที่แน่นอนของการก่อตั้งสโมสร แต่ก็มีข้อพิสูจน์ว่าก่อตั้งขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง สร้างขึ้นแทนที่สโมสรเก่า ของทีมฟุตบอล สถาบันบอสคอมบ์เซนต์จอห์น (Boscombe St. John’s Institute)  เดิมทีสโมสรนี้รู้จักกันในชื่อ Boscombe Football Club ประธานคนแรกคือนาย เจซี ณัฐ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นปัจจุบันในปี ค.ศ 1971 และใช้ชื่อเล่นว่า “เดอะเชอร์รี่ส์” ใช้ ดีนคอร์ต เป็นสนามเหย้าตั้งแต่ ค.ศ. 1910 สีเหย้าของพวกเขาคือเสื้อเชิ้ตลายทางสีแดงและดำ กางเกงขาสั้นและถุงเท้าสีดำ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก สโมสร เอซี มิลาน ทีมยักษ์ใหญ่ของ กัลโช่เซเรียอา อิตาลี 

สโมสรแข่งขันในลีกฟุตบอลระดับภูมิภาคก่อนจะไต่ระดับจาก แฮมป์เชอร์ลีก เป็น เซาเทิร์นลีก ใน ค.ศ. 1920 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บอร์นมัทแอนด์บอสคอมบ์แอตเลติก ในเวลาต่อมา และเป็นอีกครั้งที่สโมสรได้รับเลือกเข้าสู่ ฟุตบอลลีก ใน ค.ศ. 1923 ได้เข้าร่วมรายการ เทิร์ดดิวิชันเซาท์ เป็นเวลา 35 ปี และชนะเลิศ เทิร์ดดิวิชันเซาท์คัพ ใน ค.ศ. 1946 ต่อมาได้ไล่ระดับขึ้นแข่งขันใน เทิร์ดดิวิชัน ที่ได้รับการจัดโครงสร้างใหม่ใน ค.ศ. 1958 และในปี ค.ศ. 1970 ของพวกเขาต้องเผชิญกับการตกชั้นไปยัง  โฟร์ตดิวิชัน แต่ก็เลื่อนชั้นขึ้นมาทันทีในฤดูกาล 1970–71 ใช้เวลานานถึง 5 ปีในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้แข็งแกร่งแต่ก็ไม่สามารถที่จะรั้งให้ตัวเองโลดแล่นอยู่ได้นานมันจึงส่งผลให้พวกเขาตกชั้นอีกครั้งในปี ค.ศ 1975 ก่อนจะใช้เวลาต่อสู้อีก 6 ปี 

สโมสรชนะเลิศ แอสโซซิเอทเมมเบอร์สคัพ ใน ค.ศ. 1984 และ เทิร์ดดิวิชันในฤดูกาล 1986–87 เพียงเวลา 3 ฤดูกาล อยู่ในลีกระดับสองก่อนจะได้รับการลงโทษทางการเงินใน ค.ศ. 1997 และตกชั้นกลับไปลีกระดับสี่ใน ค.ศ. 2002 แต่ปัญหาก็ไม่ได้จบเพียงเท่านั้นเมื่อใน ค.ศ 2008 ทีมของพวกเขาต้องเผชิญกับ การลงโทษทางการเงินอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 และตกชั้นไป ลีกทู และนั่นมันจึงทำให้ เอ็ดดี ฮาว เข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีม สโมสรเลื่อนชั้นถึงสามครั้งในรอบหกปีและเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ประวัติสโมสรบอร์นมัท
ประวัติสโมสรบอร์นมัท

เอเอฟซี บอร์นมัธ

สโมสรได้ใช้ชื่อ เอเอฟซี บอร์นมัธ ในปี ค.ศ. 1971 โดยมีความตั้งใจว่าสโมสรจะปรากฏเป็นอันดับแรกในรายการสโมสรในอังกฤษตามตัวอักษร หนึ่งปีต่อมา สโมสรได้ใช้ตราสัญลักษณ์ใหม่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้า ด้านหลังมีพื้นฐานมาจากเสื้อของสโมสร เบื้องหน้าเป็นโปรไฟล์ของผู้เล่นที่กำลังโหม่งบอล เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดิกกี ดาวเซตต์ ผู้ทำประตูให้กับสโมสรในช่วงทศวรรษ 1950 และ 1960 ชุดแข่งสีแดงดำของทีม เปิดตัวในปี 1971 โดยมีต้นแบบมาจาก ทีมเอซี มิลาน และมันเป็นยุครุ่งเรืองของ Ted MacDougall ซึ่งเป็นผู้ทำประตูในศึกเอฟเอคัพ เดือนพฤศจิกายน ยิงได้ 9 ประตูในการเอาชนะ 11–0 กับ มาร์เกต

เอเอฟซี บอร์นมัธ

เอเอฟซี บอร์นมัธ ปลายศตวรรษที่ 20

บอร์นมัธ จดหน้าสถิติประวัติศาสตร์ใหม่ขึ้นหลังจากที่พวกเขาเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใน เอฟเอ คัพ เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 1984 ซึ่งในตอนนั้น แฮร์รี เรดแนปป์ คือกุนซือ สโมสรคว้าถ้วยรางวัลชิ้นที่สองด้วยการคว้าแชมป์ Associate Members ‘ Cup ในฤดูกาลแรกโดยเอาชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 2–1 ที่ บูธเฟอร์รี่พาร์ค เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1984 ในรอบชิงชนะเลิศ

บอร์นมัธขึ้นสู่ดิวิชั่น 2 ของลีกอังกฤษเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 3 ในปี 1987 หลังจากการต่อสู้ฤดูกาลแรกในดิวิชั่น 2 บอร์นมัธก็สร้างความท้าทายใหม่ โดยการก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุดฤดูกาล 1988–89 แต่ก็ด้วยประสบการณ์ที่ยังไม่มากพอและความแข็งแกร่งที่ยังสู้กับทีมยักษ์ใหญ่อื่นไม่ได้จึงทำให้พวกเขา จบได้เพียงอันดับที่ 12 เท่านั้น

เอเอฟซี บอร์นมัธ ปลายศตวรรษที่ 20
เอเอฟซี บอร์นมัธ ปลายศตวรรษที่ 20

เอเอฟซี บอร์นมัธ ต้นศตวรรษที่ 21

ฌอน โอ’ดริสคอล ได้รับการเลื่อนขั้นจากผู้ฝึกสอนเป็นโค้ชแทน เมล มาชิน เมื่อเริ่มต้นฤดูกาล 2000–01 ในฤดูกาลแรกของโอดริสคอลในฐานะผู้จัดการทีม เขาพลาดโอกาสสำคัญที่จะพาทีมขึ้นสู่ดิวิชั่น 2 อย่างน่าเสียดาย แต่แล้วด้วยความพยายามในปีถัดมาเขาก็สามารถพาลูกเรือของเขา ขึ้นสู่ดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จ เป็นยุคที่พวกเขามีสตาร์ดังอย่าง เจมส์ เฮย์เตอร์ กลายเป็นนักเตะที่ทำแฮตทริกได้เร็วที่สุดในเกาะอังกฤษ เพียงเวลาที่เขาเปลี่ยนตัวลงมาในสนาม 12 นาที ส่งทีมชนะคู่แข่งไปถึง 6 ประตูต่อ 0

ยุคพรีเมียร์ลีก ของ เอเอฟซี บอร์นมัธ
ยุคพรีเมียร์ลีก ของ เอเอฟซี บอร์นมัธ

ยุคพรีเมียร์ลีก ของ เอเอฟซี บอร์นมัธ

ในฤดูกาลแรกของบอร์นมัธ ในพรีเมียร์ลีก ทีมต้องประสบปัญหากับอาการบาดเจ็บของลูกทีมหลายคน รวมถึงคัลลัม วิลสันกองหน้าดาวรุ่งจากฤดูกาลที่แล้ว ทีมต้องดิ้นรนเกือบตลอดครึ่งแรกของฤดูกาล เขาหล่นไปอยู่ในโซนตกชั้นหลายต่อหลายครั้ง แต่ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลพวกเขากลับพลิกสถานการณ์กลับจากร้ายกลายเป็นดี ในที่สุดบอร์นมัธก็จบอันดับที่ 16 ในลีกและหลีกเลี่ยงการตกชั้นได้สำเร็จ

ฤดูกาล 2016-2017 พวกเขายังไม่หลุดพ้นกับอาการบาดเจ็บ แถมในช่วงสัปดาห์แรกของการเปิดฤดูกาล ทำให้พวกเขาอยู่รั้งท้ายโซนตกชั้น แต่การมาของ นาธาน อาเก้ ในการยืมตัวครั้งนั้นทำไมสโมสรมีปราการหลังที่แข็งแกร่งจึงทำให้พวกเขาจบอันดับที่ 9 จึงทำให้สโมสรยืนสัญญาเซ็นถาวรจากเซลซี ด้วยค่าธรรมเนียมที่เป็นสถิติสโมสรในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2017 โดยมีรายงานว่ามีมูลค่า 20 ล้านปอนด์

ฤดูกาล 2017-2018 ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขาออกตัวช้า แต่ก็อย่างเคยฟอร์มของพวกเขากลับมาดีในช่วงปลายฤดูกาล และในปีนี้ผู้จัดการของพวกเขาได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ รางวัลผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกยอดเยี่ยมประจำเดือน ซึ่งฮ่าว โค้ชในขณะนั้น ช่วยให้ทีมของเขา กระโดดหนีจากโซนของฉันและจบที่อันดับ 12 ซึ่งเป็นการแก้สถานการณ์ได้ดีเยี่ยม และยังสามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกจนถึงฤดูกาลต่อมา

แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถ ที่จะครองอยู่ในลีกสูงสุดแห่งนี้ได้นาน เมื่อในฤดูกาล 2019-2020 พวกเขาต้องเผชิญกับการตกชั้น เมื่อตลอดทั้งฤดูกาลเก็บชัยชนะได้เพียง 9 นัด มันจึงส่งผลให้พวกเขาลงไปเล่นใน Championship ใช้เวลาฝึกฝนและวางแผนกัน แต่แล้วท้ายที่สุด ในฤดูกาล 2021-2022 พวกเขาก็กลับขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งโดยการเป็นรองแชมป์ แต่เส้นทางของพวกเขายังลุ้นกันต่อไปเมื่อฟอร์มไม่ค่อยสู้ดีนักเท่าไหร่ฤดูกาลล่าสุด 2023-2024 สิบสองนัดแรกที่ออกสตาร์ท ต้องดิ้นรนเพื่อเก็บคะแนนหลุดพ้นจากโซนหนีชั้น

เกียรติประวัติของสโมสรฟุตบอลเอเอฟซี บอร์นมัธ
เกียรติประวัติของสโมสรฟุตบอลเอเอฟซี บอร์นมัธ

เกียรติประวัติของสโมสรฟุตบอลเอเอฟซี บอร์นมัธ

ระดับลีก

แชมเปี้ยนชิพ 

  • แชมเปี้ยนส์: 2014–15 
  • รองแชมป์: 2021–22 


ดิวิชั่นสามใต้ / ดิวิชั่นสาม / ลีกวัน

  • แชมป์: 1986–87
  • รองชนะเลิศ: 1947–48 , 2012–13

ดิวิชั่น 4 / ลีกทู

  • รองชนะเลิศ: 1970–71 , 2009–10
  • เลื่อนชั้น: 1981–82
  • ผู้ชนะเพลย์ออฟ: 2003


ลีกใต้

รองชนะเลิศ: พ.ศ. 2465–23

ระดับถ้วย

แอสโซซิเอท เมมเบอร์ส คัพ / ถ้วยรางวัลฟุตบอลลีก

  • ผู้ชนะ: 1983–84
  • รองแชมป์: 1997–98

ดิวิชั่น 3 เซาท์คัพ

  • ผู้ชนะ: 1945–46