นาอิฟ อเกิร์ด(Naif Agerd)

นาอิฟ อเกิร์ด(Naif Agerd) เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2539 อายุ 27 ปี เกิดในเมือง เคนิตร้า ของประเทศ โมร็อกโก ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวกำลังค้าแข้งอยู่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับทางด้านทัพ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พร้อมกับสวมเสื้อหมายเลข 27 ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คให้กับสโมสร และ ยังเป็นผู้เล่นตัวหลักให้กับสโมสรในฤดูกาล 2023-24 นี้อีกด้วย

การเริ่มต้นในอาชีพค้าแข้งของ นาอิฟ อเกิร์ด

นาอิฟ อเกิร์ด ได้เริ่มต้นในอาชีพการค้าแข้งด้วยการเข้าร่วมสโมสร ฟุส ราบัต ก่อนที่เจ้าตัวจะพาทีมได้แค่รองแชมป์ในรายการ ถ้วยบัลลังก์ คัพ ในปี 2015 ด้วยการพ่ายแพ้ต่อ คลับ เดอ คูริบกา ก่อนที่จะมายิงประตูแรกเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ด้วยการคว้าชัยชนะเหนือ วีแดด เอซี พร้อมกับเปิดสกอร์แรกได้ในเกมยุโรปที่เสมอกับ ยูเอ็มเอสเดอลุม 1-1 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม

นาอิฟ อเกิร์ด ย้ายค้าแข้งให้กับสโมสร ดิฌง

หลังจากที่อยู่ค้าแข้งให้กับ ฟุส ราบัต เป็นระยะเวลาสี่ฤดูกาล อเกิร์ด ก็ได้ย้ายเข้าร่วมทีมใน ลีกเอิง ฝรั่งเศส กับทางด้านสโมสร ดิฌง ก่อนที่เขาจะได้รับโอกาสลงเปิดตัวให้กับสโมสรในเกมที่ชนะ นีซ 4-0 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งเป็นเกมที่เจ้าตัวนั้นสามารถเปิดสกอร์แรกให้กับตัวเองในการให้ค้าแข้งให้กับสโมสรได้ในเกมนั้นอีกด้วย

แรนส์ คว้าตัว นาอิฟ อเกิร์ด เข้าร่วมทีม

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563 แรนส์ ได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว นาอิฟ อเกิร์ด เข้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 5 ล้านยูโร ก่อนที่เจ้าตัวจะลงเล่น และ ยิงประตูแรกในลีกการค้าแข้งให้กับสโมสรได้ในเกมที่ชนะ นีมส์ 4-2 วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2563 พร้อมกับได้รับรางวัลในอันดับ 3 ของผู้เล่นแอฟริกันที่ดีที่สุดใน ลีกเอิง ฝรั่งเศส จากการโหวตของรายการ กรังปรีซ์ มาร์ค-วิเวียน โฟเอ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมานั่นเอง

นาอิฟ อเกิร์ด ย้ายค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรก

ในเดือนมิถุนายน ปี 2022 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ทำการเซ็นสัญญาคว้าตัว นาอิฟ อเกิร์ด เข้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ พร้อมกับเซ็นสัญญาค้าแข็งให้กับสโมสรเป็นระยะเวลา 5 ปี จากนั้นในวันที่ 16 กรกฎาคม อเกิร์ด ก็ได้ลงเล่นเกมแรกให้กับสโมสรในเกมกระชับมิตรที่เสมอกับทางด้าน เรดดิ้ง 1-1 ก่อนที่เจ้าตัวจะได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าในช่วงปรีซีซั่นที่กระชับมิตรกับ เรนเจอร์ ในเดือนกรกฎาคม

ก่อนที่เจ้าตัวจะหายจากอาการบาดเจ็บแล้วกลับมาลงสนามได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ในเกมการแข่งขัน ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ที่คว้าชัยชนะเหนือ ซิลเคบอร์ก 1-0 และ ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญในการพาสโมสรประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ฤดูกาล 2022–23 มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 43 ปี ด้วยการเอาชนะ ฟิออเรนติน่า 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา

สไตล์การเล่นฟุตบอลของ นาอิฟ อเกร์ด

อเกิร์ด เป็นนักเตะที่มีความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายที่ยอดเยี่ยม มีความโดดเด่นในการสกัดกั้นคู่แข่งในการทำประตู แถมเจ้าตัวยังมีเทคนิค และ ทักษะในการอ่านเกมคู่ต่อสู้ได้อย่างเด็ดขาด โดยเจ้าตัวนั้นจะมีสมาธิอยู่ในเกมการแข่งขันอยู่ตลอดเวลาไม่มีการว๊อกแว๊ก ด้วยฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวจึงทำให้ อเกิร์ด เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของสโมสรในการคุมแผงหลังในปัจจุบัน

การเข้าร่วมทีมชาติโมร็อกโก ของ นาอิฟ อเกิร์ด

นาอิฟ อเกิร์ด เปิดตัวกับทีมชาติ โมร็อกโก ครั้งแรกในเกมกระชับมิตรที่เสมอกับ แอลเบเนีย 0-0 จากนั้นในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เขาได้เป็นตัวแทนของทีมชาติเพื่อลงแข่งขันในรายการชิงแชมป์แห่งชาติแอฟริกัน 2018 ก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะพาทีมชาติ โมร็อกโก คว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้สำเร็จ และ ในตอนมาเขามีชื่อเข้าร่วมทีมชาติอีกครั้งในชุด 26 คนของทีมชาติ

เพื่อเตรียมตัวลงแข่งขันในฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศ กาตาร์ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ 2565 ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะพลาดโอกาสลงเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศที่พบกับ โปรตุเกส แต่เจ้าตัวก็กลับมามีบทบาทอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศที่พ่ายแพ้ให้กับ ฝรั่งเศส 0-2 เมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ก่อนที่เขา และ ทีมชาติ โมร็อกโก จะจบในอันดับสี่ของการแข่งขันในรายการ

เกียรติประวัติและรางวัลในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ

ฟุส ราบัต

โบโตลา : 2015–16
บัลลังก์คัพ : 2013–14;รองชนะเลิศ: 2014–15

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก : 2022–23

โมร็อกโก

แอฟริกัน เนชั่นส์ แชมเปี้ยนชิพ : 2018

รางวัลส่วนตัว

ทีมชายแห่งปีของIFFHS CAF: 2020
ทีม ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีกทีมแห่งฤดูกาล: 2022–23

เนื่องจากในฤดูกาลที่ผ่านมานั้น นาอิฟ อเกิร์ด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เขาจึงถูกตั้งความหวังจากแฟนบอลว่า ในฤดูกาล 2023-24 ที่กำลังแข่งขันอยู่นี้ เขาจะเป็นผู้เล่นกำลังหลักสำคัญในการคุมแผงหลังให้กับสโมสร และ จะช่วยพาสโมสรประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ได้อีกครั้งเหมือนในฤดูกาลที่ผ่านมา

อ้างอิงข้อมูล : wikipedia