คริสเตียน นอร์การ์ด(Christian Norgaard)

คริสเตียน นอร์การ์ด(Christian Norgaard) เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2537 อายุ 29 ปี เกิดในเมือง โคเปเฮเกน ของประเทศ เดนมาร์ก ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวกำลังค้าแข้งอยู่ในลีกเมืองผู้ดีกับทางสโมสร “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับสวมเสื้อหมายเลข 6 ลงเล่นในตำแหน่งกองกลางรับให้กับสโมสรในปัจจุบัน

การเริ่มต้นในอาชีพค้าแข้งของ คริสเตียน นอร์การ์ด

นอร์การ์ด เริ่มต้นการค้าแข้งกับทีมในท้องถิ่นของ เดนมาร์ก ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเข้าร่วมทีมเยาวชนของสโมสร ลิงบี ในปี 2008 ซึ่งภายหลังจากจบในฤดูกาล 2011-12 เขาก็ได้มีชื่อเป็นตัวสำรองในทีมชุดใหญ่ของเกมการแข่งขันที่เสมอกับ เอชบี โคเก้ 2-2 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 และภายหลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับสโมสร จึงทำให้ นอร์การ์ด ได้รับความสนใจจากเอซี มิลาน และ ฮอฟเฟนไฮม์

ก่อนที่เขาจะตัดสินใจย้ายไปยัง บุนเดสลีกา เพื่อเข้าร่วมทีม ฮัมบู เอสวี ด้วยค่าตัว 400,000 ยูโร ในข้อตกลงของสัญญาสามปี แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถตกลงเงื่อนไขภายในสโมสรได้ จึงทำให้ดีลในครั้งนี้ล้มเหลว และ เขาก็ย้ายกลับมายังสโมสรอีกครั้งในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2556 พร้อมกับจบผลงานในฤดูกาลนั้นด้วยการลงสนาม 22 นัดให้กับทีมสำรองของสโมสร ลิงบี

คริสเตียน นอร์การ์ด ย้ายร่วมทีม บรอนด์บี ไอเอฟ

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556 นอร์การ์ด ได้ย้ายเข้าร่วมทีมในซุปเปอร์ลีกกับทางด้านสโมสร บรอนด์บี ไอเอฟ ด้วยสัญญาค้าแข้งเป็นระยะเวลาสี่ปี ซึ่งภายหลังจากย้ายมาในช่วงแรกเขาไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามให้กับสโมสร ก่อนที่ อเล็กซานเดอร์ ซอร์นิเกอร์ จะเข้ามาคุมทีมจึงทำให้ นอร์การ์ด กลายมาเป็นกำลังหลักสำคัญให้กับสโมสรมาโดยตลอด

พร้อมกับทำการต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปอีกสองปีในเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 และ ได้รับเสนอชื่อให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร บรอนด์บี ไอเอฟ ในฤดูกาล 2017 ก่อนที่เขาจะมีการตัดสินใจย้ายออกจากทีมในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 ด้วยผลงานลงเล่นให้กับสโมสร 145 นัดยิงไป 11 ประตู

ฟิออเรนติน่า คว้าตัว คริสเตียน นอร์การ์ด เข้าร่วมทีม

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 นอร์การ์ด ย้ายไปยัง อิตาลี เพื่อเข้าร่วมเซ็นสัญญากับสโมสร ฟิออเรนติน่า ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านยูโร พร้อมกับเซ็นสัญญาค้าแข้งให้กับสโมสรเป็นระยะเวลาสี่ปี ซึ่งภายหลังจากจบฤดูกาล 2018-19 ทางสโมสรมีความประสงค์ที่จะปล่อยตัว นอร์การ์ด ออกจากทีม จึงทำให้เขาลงเล่นแค่เพียง 6 นัดให้กับสโมสร ก่อนที่จะย้ายออกจากอิ่มถิ่น สตาดิโอ อาร์เทมิโอ ฟรานกี ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562

นอร์การ์ด ย้ายค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก กับ เบรนท์ฟอร์ด

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ 2562 นอร์การ์ด ย้ายไปยัง อังกฤษ เพื่อเข้าร่วมทีม เบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัว 2.8 ล้านปอนด์ พร้อมกับเซ็นสัญญาค้าแข้งกับสโมสรเป็นระยะเวลาสี่ปี ซึ่งภายหลังจากย้ายมาเขาลงเล่นให้กับสโมสรในปีแรกทั้งหมด 45 นัดในช่วงฤดูกาล2019-20 ก่อนที่จะจบด้วยความพ่ายแพ้ใน รอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนชิพ 2020 หลังจากนั้นเขาก็ทำผลงานให้กับสโมสรได้ดีมาโดยตลอด จนสามารถพา เบรนท์ฟอร์ด เลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จในฤดูกาล 2021-22

ซึ่งภายหลังจากที่สโมสรขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก นอร์การ์ด ก็ยิงประตูที่สองในอาชีพกับ เบรนท์ฟอร์ด ในนัดเปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก 2021-22 ด้วยการเอาชนะ อาร์เซนอล 2-0 พร้อมกับ มีการขยายสัญญาฉบับใหม่ออกไปอีกสามปีในช่วงปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 ก่อนที่จะมาถึงในฤดูกาล 2022-23 นอร์การ์ด โดนอาการบาดเจ็บรบกวนรุมเร้าอย่างหนักในช่วงของการแข่งขัน จึงทำให้เขาไม่ค่อยได้ลงสนามให้กับสโมสรมากเท่าไหร่ในฤดูกาลนั้น แต่เขาก็ยังจบด้วยผลงาน ลงเล่น 23 นัดยิงได้ 1 ประตูในฤดูกาล 2022-23

และภายหลังจากสิ้นสุดฤดูกาล 2022-23 บวกกับการย้ายทีมของ ปอนทัส แจนส์สัน ทำให้ นอร์การ์ด ได้รับหน้าที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมคนใหม่ของสโมสรในฤดูกาล 2023-24 พร้อมกับเป็นกองกลางคนสำคัญที่ช่วยยิงหนึ่งประตูให้กับสโมสรในเกมที่บุกเสมอกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา

สไตล์การเล่นฟุตบอลของ คริสเตียน นอร์การ์ด

นอร์การ์ด เป็นนักเตะในตำแหน่งกองกลางตัวรับที่มีความโดดเด่นในเรื่องของเกมรับ และ เกมรุก ซึ่งเขานั้นมีความสามารถในการเปลี่ยนรูปเกมได้อย่างน่าทึ่ง โดยเปลี่ยนจากเกมรับให้กลายเป็นเกมรุกได้อย่างรวดเร็ว แถมยังมีทักษะที่ยอดเยี่ยมในการจ่ายบอลจากท้าวสู่เท้าได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการวางเท้ายิงประตูคู่แข่งจากแถวสองได้อย่างน่าประทับใจอีกด้วย

การเข้าร่วมทีมชาติเดนมาร์ก ของ คริสเตียน นอร์การ์ด

นอร์การ์ด ลงเล่น 73 นัด และ ยิงได้ 5 ประตู ให้กับทีมชาติ เดนมาร์ก ตั้งแต่ชุด U16 ถึง ชุดU21 ก่อนที่เขาเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมฟุตบอลโลก U17 ของทีมชาติในปี 2011และ ทีมชิงแชมป์ยุโรป U21 ปี2015 และ 2017 ตามลำดับ จากนั้นเขาถูกเรียกตัวเข้าร่วมทีมชาติชุดใหญ่ในการแข่งขัน เนชั่นลีก รอบแบ่งกลุ่มปี 2018-19 แต่ก็ยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีมชาติในทัวร์นาเมนต์นั้น

จากนั้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. พ.ศ. 2563 เขาลงสนามให้กับทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกด้วยการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมที่เสมอกับทีมชาติ อังกฤษ 0-0 ในรายการ ยูฟ่าเนชั่นลีก 2020-21 ซึ่งภายหลังจากจบในรายการ ยูฟ่าเนชั่นลีก นอร์การ์ด ก็มีชื่อติดทีมชาติ เดนมาร์ก อีกครั้งในรายการ ยูโร 2020 พร้อมกับพาทัพ โคนม เข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศ กาตาร์ ได้อีกด้วย

เกียรติประวัติและรางวัลในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ

บรอนด์บี้

เดนิช คัพ : 2017–18

เบรนท์ฟอร์ด

อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ เพลย์ออฟ : 2021

รางวัลส่วนตัว

นักเตะ ยอดเยี่ยมแห่งปีของบรอนด์บี: 2017
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของผู้สนับสนุนเบรนท์ฟอร์ด : 2021–22
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของผู้เล่นเบรนท์ฟอร์ด: 2021–22

ซึ่งภายหลังจากที่ นอร์การ์ด ย้ายเข้ามาร่วมทีม เบรนท์ฟอร์ด ก็ถือได้ว่าเขานั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการคุมเกมแดนกลางให้กับสโมสรมาโดยตลอดในช่วงที่ผ่านมา และ ด้วยฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัว จึงทำให้มีหลายสโมสรอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะตัดสินใจอยู่ค้าแข้งกับสโมสรต่อไปในฤดูกาล 2023-24

อ้างอิงข้อมูล : wikipedia