อดาม่า ตราโอเร่ (Adama Traore)
อดาม่า ตราโอเร่ (Adama Traore) มีชื่อเต็มๆว่า อาดามา ตราโอเร ดิยาร์รา (Adama Traoré Diarra) เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม 1996 อายุ 27 ปี เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวสเปน เล่นในตำแหน่งปีกขวา ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสร ฟูแล่ม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับสวมเสื้อหมายเลข 11 ในสโมสร และเล่นให้กับทีมชาติสเปน
เส้นทางการเริ่มต้นเล่นฟุตบอลของ ตราโอเร่
ตราโอเร่ เป็นอีกหนึ่งของผลผลิตทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะสเปนอย่างบาร์เซโลน่า ที่เขาได้อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่รุ่นอะคาเดมี่ แต่ในช่วงที่เขาได้เริ่มต้นเล่นฟุตบอลนั้นเขาได้อยู่กับศูนย์ฝึกกีฬา โลสปิตาเลต์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่บ้านเกิดของเขาเอง หลังจากนั้นในปี 2004 เขาก็ได้เข้าสู่รุ่นเยาวชนของบาร์เซโลน่า ในวัยเพียง 8 ขวบเท่านั้น และเขาใช้เวลาในการพัฒนาตัวเองกับสโมสรแห่งนี้เกือบ 10 ปีกว่าจะได้ก้าวขึ้นไปเล่นในลีกอาชีพแบบเต็มตัว
ตราโอเร่กับสโมสรบาร์เซโลน่า
ในปี 2013 อดาม่า ตราโอเร่ ได้ขึ้นไปเล่นให้กับสโมสร บาร์เซโลน่าบี ซึ่งเป็นทีมสำรองของบาร์เซโลน่า เขาได้ลงประเดิมสนามในเกมแรกด้วยความพ่ายแพ้และหลังจากนั้นเขาก็ได้รับโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเล่นในรุ่นเยาวชนของบาร์เซโลน่าไปด้วย เขาอยู่กับสโมสรบาร์เซโลน่าบีจนถึงปี 2015 พร้อมกับโอกาสในการลงสนามไปมากถึง 63 เกมทำไปได้อีก 8 ประตู เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ แต่จับบาร์เซโลน่าชุดใหญ่เขาได้ลงสนามไปเพียง 1 เกมเท่านั้นจนทำให้ปี 2015 เขาตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก
ตราโอเร่กับสโมสรแอสตัน วิลล่า
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2015 ตราโอเร่ ได้เข้าสู่สโมสร แอสตัน วิลล่าในพรีเมียร์ลีก ด้วยสัญญาถึง 5 ปี ค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านยูโรหลังจากนั้นเพียง 8 วันเขาก็ได้เปิดตัวกับสโมสรอย่างเป็นทางการในการประเดิมสนามเกมแรกพร้อมกับการเก็บชัยชนะไปได้ เขาได้อยู่กับสโมสรเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น 2015-16 ได้ลงสนามไปเพียง 11 เกมก่อนที่จะถูกปลดออกจากทีมเนื่องจากขาดวินัย
ตราโอเร่กับสโมสรมิดเดิ้ลสโบรช์
หลังจากที่เขาได้ออกจาก แอสตัน วิลล่าในวันที่ 31 สิงหาคม 2016 ตราโอเร่ ได้เซ็นสัญญา 4 ปีกับสโมสร มิดเดิลสโบรห์ พร้อมกับการเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 10 กันยายน 2016 เป็นช่วงระยะเวลาที่เขาได้ลงสนามให้กับสโมสรมาพอสมควรกับ 2 ฤดูกาล ลงสนามไปถึง 61 เกมทำไปได้ 5 ประตู และหลังจากนั้นในปี 2018 เขาก็ย้ายย้ายกลับไปค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง กับสโมสรวูล์ฟแฮมป์ตัน
ตราโอเร่กับสโมสรวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
ในวันที่ 8 สิงหาคม 2018 ตราโอเร่ได้กลับเข้าสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับสโมสร วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส พี่พึ่งได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วยสัญญาถึง 5 ปี เขากับสโมสรแห่งนี้ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่เขาท้าแข้งนานที่สุดในอาชีพที่ผ่านมา และเป็นสโมสรที่เขาได้โชว์ผลงานอย่างยอดเยี่ยม เขาได้อยู่กับสโมสรจนถึงปี 2023 และได้รับโอกาสในการลงสนามไปมากกว่า 100 เกม ทำไปได้อีก 10 ประตู จนทำให้สโมสรที่ได้ปั้นเขามาอย่างบาร์เซโลน่าต้องดึงตัวกลับไปร่วมทัพในช่วงฤดูกาล 2022-23 แต่พอเขาหมดสัญญากับวูล์ฟแฮมป์ตัน เขาก็ได้ย้ายเข้าสู่ฟูแล่ม ในปี 2023
ตราโอเร่กับสโมสรฟูแล่ม
ในวันที่ 12 สิงหาคม 2023 ตราโอเร่ ได้ย้ายเข้าสู่สโมสรฟูแล่มอย่างเป็นทางการแบบไม่มีค่าตัว ซึ่งเป็นทีมที่ 3 ที่เขาได้ค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก และในฤดูกาลล่าสุดเขาได้ลงสนามให้กับฟูแล่มไปแล้วทั้งหมด 3 เกมในพรีเมียร์ลีก แต่ยังไม่สามารถยิงประตูให้กับสโมสรใหม่ได้ แต่เขาก็มีส่วนสำคัญในการได้ประตูของทีมและสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนๆในทีมอยู่เสมอ
ตราโอเร่กับทีมชาติสเปน
ตราโอเร่ มีชื่อติดทีมชาติสเปนตั้งแต่ปี 2012 ในรุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปีจากนั้นเขาก็ได้ก้าวขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีของทีมชาติสเปน และในปี 2020 เขาก็ได้ถูกเรียกติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่ พร้อมกับการลงสนามรับใช้ทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้วถึง 8 เกม ในปัจจุบันนี้เขาก็พยายามทำผลงานเพื่อที่จะถูกเรียกติดทีมชาติอยู่เสมอ
เกียรติประวัติ ตราโอเร่
บาร์เซโลน่า เยาวชน
- ยูฟ่ายูธลีก: 2013–14
บาร์เซโลนา
- โคปา เดล เรย์: 2014–15
รางวัลรายบุคคล
- ทีมเซกุนดาดิบิซิออนแห่งปี : 2013–14
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของแฟนมิดเดิลสโบรห์ : 2017–18
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของผู้เล่นมิดเดิลสโบรห์ : 2017–18
- นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของมิดเดิลสโบรห์ : 2017–18
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของ PFA : มกราคม 2020
ในปัจจุบันนี้ อดาม่า ตราโอเร่ มีความเร็วสูงของฟูแล่ม ที่มีรูปร่างใหญ่และมีความแข็งแกร่งกับส่วนสูงเพียงแค่ 178 เท่านั้น เป็นอีกหนึ่งตัวริมเส้นที่สามารถสร้างอันตรายให้ผู้ต่อสู้ได้เป็นอย่างมากพร้อมกับการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนเป็นอย่างดี และเขายังมีการจบสกอร์ที่เฉียบคมพอสมควร แต่ในช่วงหลังๆนี้ผลงานของเขาไม่ค่อยโดดเด่นสักเท่าไหร่จนทำให้ไม่สามารถมีชื่อในทีมชาติสเปนปัจจุบันได้แต่เชื่อว่าถ้าเขาได้รับโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่องเขาจะสามารถเรียกความมั่นใจกลับมาให้ตัวเองได้
อ้างอิง : Wikipedia