LIVERPOOL

โจ โกเมซ (Joe Gomez)

โจ โกเมซ

Joe Gomez

ช่องทางติดตาม :

สถิติ ผลงานในพรีเมียร์ลีก

เกียรติประวัติและรางวัล

  • ฤดูกาล 2019/20
  • ฤดูกาล 2021/22
  • ฤดูกาล 2018/19
  • ฤดูกาล 2022
  • ฤดูกาล 2019
  • ฤดูกาล 2019

โจ โกเมซ (Joe Gomez)

โจ โกเมซ (Joe Gomez) เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 อายุ 26 ปี เขาเกิดที่เมืองแคทฟอร์ด ของประเทศ อังกฤษ โดยปัจจุบันกำลังทำการค้าแข้งอยู่ในลีกเมืองผู้ดีให้กับสโมสร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำในเกาะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับสวมเสื้อหมายเลข 2 ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค โจ โกเมซ ถือเป็นนักเตะอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จกับสโมสรในการคว้าแชมป์ต่างๆ นับตั้งแต่ที่เขาย้ายเข้ามาร่วมทีมกับ ลิเวอร์พูล

โจ โกเมซ (Joe Gomez)
โจ โกเมซ เริ่มต้นการค้าแข้งกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก

โจ โกเมซ เริ่มต้นการค้าแข้งกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก

โจ โกเมซ เปิดตัวการค้าแข้งครั้งแรกของเขากับ ชาร์ลตัน แอธเลติก ในทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ถึงแม้ว่าตอนนั้นเขาจะมีอายุได้เพียงแค่ 13 ปี ก็ตามแม้ว่าเจ้าตัวจะได้รับความสนใจจากหลายสโมสร แต่เขาก็เลือกที่จะเซ็นสัญญาค้าแข้งฉบับแรกกับ ชาร์ลตัน ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 หลังจากนั้นเขาก็ได้รับความไว้วางใจจาก บ็อบ พีเทอร์ส ให้ลงสนามในเกม ลีกคัพ ที่ทีมนั้นสามารถเก็บชัยชนะเหนือ โคลเชสเตอร์ยูไนเต็ด 4-0 ได้อีกด้วย

โจ โกเมซ (Joe Gomez)
โจ โกเมซ บทบาทใหม่ใน พรีเมียร์ลีก กับ ลิเวอร์พูล

โจ โกเมซ บทบาทใหม่ใน พรีเมียร์ลีก กับ ลิเวอร์พูล

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ลิเวอร์พูลได้ทำการเซ็นสัญญาคว้าตัว โจ โกเมซ มาจาก ชาร์ลตัน ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ พร้อมกับเซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ เป็นระยะเวลา 5 ปี และ ในวันที่ 9 สิงหาคมเขาก็ได้เปิดตัวค้าแข้งกับทัพ หงส์แดง เป็นครั้งแรกในเกมที่เปิดบ้านคว้าชัยชนะเหนือ สโต๊คซิตี้ 

หลังจากนั้นเขาก็ต้องพลาดโอกาสในการลงสนามให้กับลิเวอร์พูล เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเอ็นไขว้หน้าจากการที่เขาได้ไปเข้าร่วมกับทีมชาติอังกฤษชุด U21 ปี ก่อนที่จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

โจ โกเมซ ยืนเซ็นเตอร์แบ็คคู่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค

ในฤดูกาล 2019 ถือว่าเจ้าตัวนั้นอยู่ในช่วงฟอร์มที่กำลังฮอตแบบสุดๆ จนทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจาก เจอเกนส์ คล็อปป์ ในการลงสนามในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คยืนเคียงคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค จนสามารถพาทีมประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ หรือ ถ้วยใบใหญ่ในยุโรปอย่าง ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ อื่นๆอีกหลายรายการ จึงทำให้เขาถูกยกย่องจากแฟนบอลว่านี่คือคู่หูกองหลังที่ดีที่สุดในโลกอยู่ในขณะนั้น

สไตล์การเล่นของ โจ โกเมซ

สไตล์การเล่นของ โจ โกเมซ

โจ โกเมซ เป็นนักเตะเซ็นเตอร์แบ็ค ที่สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งแบ็คซ้าย และ แบ็คขวาได้อีกด้วย โดยตัวเขานั้นถือมีความโดดเด่นในเรื่องของความแข็งแกร่ง และ การอ่านทางบอลของคู่ต่อสู้ได้อย่างเด็ดขาด และ ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาได้ลงสนามยืนคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ในแผงหลังให้กับสโมสร เมื่อนั้นก็ยากที่คู่ต่อสู้จะสามารถเข้ามาทำประตูได้

การเข้าร่วมทีมชาติอังกฤษ ของ โจ โกเมซ

การเข้าร่วมทีมชาติ อังกฤษ ของ โจ โกเมซ

โจ โกเมซ ถูกเรียกเข้าติดทีมชาติ อังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เป็นครั้งแรกในเดือน พฤษภาคม 2014 เพื่อลงทำการแข่งขันในรายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีก่อนที่เขานั้นจะเป็นส่วนหนึ่งในการคว้าแชมป์ได้ในครั้งนี้ หลังจากนั้น เขาก็มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เพื่อเตรียมตัวลงทำการแข่งขันกับทีมชาติ เยอรมันนี ในเกมกระชับมิตรทีมชาติ

โจ โกเมซ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ ลิเวอร์พูล

เกียรติประวัติและรางวัลในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ

สโมสร ลิเวอร์พูล

  • พรีเมียร์ลีก : 2019–20
  • เอฟเอ คัพ : 2021–22
  • เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ : 2022
  • ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 2018–19 รองชนะเลิศ: 2021–22
  • ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2019
  • ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2019

ทีมชาติอังกฤษ

  • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี : 2014
  • อันดับสามยูฟ่าเนชันส์ลีก : 2018–19
โจ โกเมซ (Joe Gomez)
โจ โกเมซ คว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับ ลิเวอร์พูล

ผลงานส่วนตัว

  • ทีมแชมป์ยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีของทัวร์นาเมนท์: 2014

 

โจ โกเมซ เป็นนักเตะอีกหนึ่งคนของสโมสรลิเวอร์พูลที่มีทั้งความแข็งแกร่ง และ ตัดเกมคู่ต่อสู้ได้ดีแล้ว เขายังความพัฒนาร่างกาย และ ฝีเท้าของตัวเองอยู่อย่างต่อเนื่องถึงแม้ในตอนนี้สโมสรจะมีกองหลังไว้ใช้งานแล้วหลายๆแต่เขาก็ไม่ย่อท้อที่จะพัฒนาฝีเท้าของตัวเองให้ดีมากยิ่งขึ้นเพื่อยึดตำแหน่งตัวจริงในการลงสนามให้กับสโมสร ลิเวอร์พูล

อ้างอิงข้อมูล : https://en.wikipedia.org/wiki/Joe_Gomez_(footballer)