ความหวังในการคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 16 ของ เรอัล มาดริด ต้องจบลงอย่างน่าผิดหวัง เมื่อพวกเขาไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ในการพลิกสถานการณ์กลับมาได้ โดยพ่ายแพ้ต่อ อาร์เซนอล คาบ้านด้วยสกอร์ 1-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง (รวมผลสองนัด อาร์เซนอลชนะ 5-1) ซึ่งเกมรุกของ ราชันชุดขาว ในวันนี้ดูขาดความเฉียบคมและแทบไม่สามารถเจาะแนวรับอันแข็งแกร่งของผู้มาเยือนได้เลยตลอด 90 นาที
นาทีที่ 23 : เรอัล มาดริด เกือบได้จุดโทษ จากจังหวะที่ลูกวางบอลยาวเข้าเขตโทษ และ ไรซ์ เข้าไปกอด เอ็มบัปเป้ จนล้มลง ผู้ตัดสินได้ทำการเช็ค VAR อยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินว่าเป็นการฟาวล์ที่ไม่ชัดเจนพอ ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 0-0
นาทีที่ 65 : เป็นทางฝั่ง ปืนใหญ่ ที่มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จาก บูกาโย่ ซาก้า จากจังหวะที่ เมริโน่ โหม่งตั้งให้กับ ซาก้า ทางฝั่งขวา ก่อนที่ผู้เล่นอาร์เซนอลจะต่อบอลกันอย่างสวยงามและจบที่ ซาก้า หลุดเดี่ยวชิพบอลข้ามมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เข้าไปตุงตาข่าย
นาทีที่ 67 : แต่เกมยังไม่จบง่ายๆ วินิซิอุส จูเนียร์ มายิงตีเสมอให้กับ เรอัล มาดริด ได้อย่างรวดเร็ว 1-1 หลังจากเสียประตูได้เพียงไม่นาน เรอัล มาดริด ก็ตามตีเสมอเป็น 1-1 จากความผิดพลาดของ วิลเลียม ซาลิบา ที่โดน วินิซิอุส ฉกบอลเข้าไปยิงอย่างง่ายดาย
นาทีที่ 90+1 : ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เรอัล มาดริด พลาดโอกาสทองอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะวอลเลย์ในกรอบเขตโทษของ เอ็นดริค แต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาไกลออกไปอย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 90+3 : ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อาร์เซนอล มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะ 2-1 จากการโต้กลับเร็ว เมื่อ เรอัล มาดริด ดันสูง ทำให้มีพื้นที่ว่างในแนวรับมาก และ มาร์ติเนลลี่ หลุดเดี่ยวจากกลางสนามเข้าไปยิงผ่านมือ กูร์กตัวส์ เข้าไปอย่างเฉียบคม จบเกม อาร์เซนอล บุกมาเอาชนะ เรอัล มาดริด ได้ด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้รวมผลสองนัด อาร์เซนอล เป็นฝ่ายผ่านเข้าสู่รอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 5-1