แม็ค อัลลิสเตอร์ (Alexis Mac Allister)
แม็ค อัลลิสเตอร์ (Mac Allister) เกิดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2541 เกิดในเมือง ซานตา โรซา ของประเทศ อาร์เจนตินา โดยในปัจจุบันนั้นเขาได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ลงเล่นในตำแหน่งกองกลาง อยู่ในเกาะอังกฤษ กับสโมสร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มในตำแหน่งแดนกลางจากการย้ายทีมออกจากสโมสรของ ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
สโมสรแรกในการค้าแข้งของ แม็ค อัลลิสเตอร์
อัลลิสเตอร์ เริ่มต้นค้าแข้งกับอะคาเดมี่ของสโมสร คลับ โซเซียล และ เดปอร์ติโบ ปาร์เก้ ก่อนที่เขานั้นจะย้ายเข้าร่วมทีม อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส อย่างเป็นทางการ ก่อนที่เขาจะเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ของสโมสรในเกมพบกับ อีวานโคลมัน ของวันที่ 30 ตุลาคมพ.ศ 2559 และ เขายังถือเป็นนักเตะคนสำคัญที่สามารถพาสโมสร อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส เลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมราดิวิชั่น ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ในฐานะ แชมป์เปี้ยน ของลีก อาร์เจนตินา
แม็ค อัลลิสเตอร์ ย้ายเข้าร่วมทีม ไบรท์ตัน
ไบรท์ตัน ได้ทำการคว้าตัว อัลลิสเตอร์ เข้ามาค้าแข้งในเวที พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกของเจ้าตัวด้วยสัญญา 4 ปีครึ่ง ของวันที่ 24 มกราคม 2019 หลังจากนั้นเขาลงเล่นให้กับสโมสรเป็นครั้งแรกในฐานะตัวสำรองในเกมพบกับ อาร์เซนอล ก่อนจบด้วยชัยชนะ 2-1 ก่อนที่เจ้าตัวจะสามารถยิงประตูแรกให้กับตัวเขาเองในการค้าแข้งใน เกาะอังกฤษ ด้วยลูกโหม่ง
ในเกมพบกับ พอร์ทสมัธ ก่อนจบด้วยชัยชนะ 4-0 ในศึก คาราบาวคัพ ซึ่งแข้งชาว อาร์เจนตินา รายนี้ถือเป็นนักเตะตัวหลักที่เข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงสโมสร ไบรท์ตัน ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นจนก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับหัวแถวของตาราง พรีเมียร์ลีก ได้ในช่วงตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่าน
ลิเวอร์พูล คว้าตัว แม็ค อัลลิสเตอร์ เข้าร่วมทีม
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนพ.ศ 2566 ลิเวอร์พูลสโมสรยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ประกาศคว้าตัว แม็ค อัลลิสเตอร์ เข้ามาร่วมทีมด้วยการเซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ เป็นระยะเวลา 5 ปี พร้อมกับค่าตัวบวกกับส่วนเสริมอยู่ที่ประมาณ 55 ล้านปอนด์ และ เปิดตัวลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นเกมแรกในเกมพบกับ เชลซี ในเกมของ พรีเมียร์ลีก ที่เสมอ1-1และในวันที่19 สิงหาคม
อัลลิสเตอร์ ได้รับใบแดงเป็นครั้งแรกในการค้าแข้งในลีกเมืองผู้ดีในเกมที่พบกับบอร์นมัธ จากการไปทำใส่ทั้งด้านของ ไรอัน คริสตี้ จนทำให้เขานั้นต้องถูกกรรมการไล่ออกจากสนามในเกมนั้น หลังจากที่โดนใบแดงของ อัลลิสเตอร์ ทางด้านสโมสรก็ได้ทำการยื่นอุทธรณ์ไปยัง ฟีฟ่า พราะมองว่าการทำฟาวล์ของแข้งชาว อาร์เจนตินา รายนี้ ไม่ควรโดนถึงกับใบแดงก่อนที่จะมีคำสั่งให้เพิกถ่อนใบแดง และมีการอุทธรณ์เป็นผลสำเร็จ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม
สไตล์การเล่นของ แม็ค อัลลิสเตอร์
แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นนักเตะที่มีการเปิดบอล และ การจ่ายบอลได้อย่างแม่นยำ นอกจากเขาจะมีทักษะการเลี้ยงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้แล้วนั้น เขายังมีลูกยิงไกลจากระยะแถวสองที่หนักหน่วง และ หวังผลได้ อัลลิสเตอร์ ยังสามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งกองกลางตัวรุก และ กองกลางตัวรับ
เนื่องจากเขาเป็นนักเตะที่สามารถอ่านทางบอลคู่ต่อสู้ได้ดีและยังเป็นนักเตะที่มีการเล่นเพรสซิ่งได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งถือว่าเขานั้นเป็นนักเตะของสโมสรอีกหนึ่งรายที่สามารถตอบโจทย์การทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เป็นอย่างดี
การเข้าร่วมทีมชาติ อาร์เจนตินา ของ อัลลิสเตอร์
ภายใต้การทำทีมชาติ อาร์เจนตินา ของเคลาดิโอ อูเบดา ก็ได้เรียก อัลลิสเตอร์ เข้าร่วมทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีเป็นครั้งแรก ก่อนที่เขานั้นจะมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ใน ทัวร์นาเมนต์ โอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเขายังเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นคนสำคัญในฟุตบอลโลกปี 2022
ที่เขานั้นเป็นคน แอสซิสต์ ให้กับ อังเฆล ดิ มาริอา ทำประตูได้ในลูกที่ 2 ก่อนจะจบด้วยการเอาชนะทีมชาติ ฝรั่งเศส ด้วยการดวลรูปจุดโทษ จึงทำให้เขาเป็นหนึ่งนักเตะของทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ในปี 2022 ที่ประเทศ กาตาร์
เกียรติประวัติและรางวัลในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ
อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส
- พรีเมรา บี นาซิอองนาล : 2016–17
โบคาจูเนียรส์
- พรีเมราดิวิชั่น : 2019–20
อาร์เจนตินา U 23
- คอนเมโบล พรีโอลิมปิก ทัวร์นาเมนต์ : 2020
อาร์เจนตินา
- ฟุตบอลโลก : 2022
- คอนเมบอล-ยูฟ่า คัพ ออฟ แชมเปี้ยนส์ : 2022
อัลลิสเตอร์ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ อยากได้ตัวเข้ามาร่วมงานเป็นอย่างมาก ด้วยฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมของตัวนักเตะแล้วนั้น ก็เพื่อต้องการนำตัวมาผสมผสานกับนักเตะดาวรุ่งที่มีอยู่ภายในสโมสร เพื่อต้องการยกระดับทีมให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าประสบการณ์ของ แม็ค อัลลิสเตอร์ จะสามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
อ้างอิงข้อมูล : https://en.wikipedia.org/wiki/Alexis_Mac_Allister
