เอเดอร์สัน
Ederson
- สัญชาติ : บราซิล
- วันเกิด : 17/08/1993
- ความสูง : 188 cm
- สโมสรฟุตบอล : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- เบอร์เสื้อ : 31
- ตำแหน่ง : ผู้รักษาประตู
ช่องทางติดตาม :
สถิติ ผลงานในพรีเมียร์ลีก
- การลงลงเล่น : 222
- ทำประตู : 0
- แอสซิสต์ : 3
- ครีมชีส : 104
เกียรติประวัติและรางวัล
- แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 1 สมัย
- ฤดูกาล 2022/23
- แชมป์เอฟเอคัพ : 2 สมัย
- ฤดูกาล 2018/13
- ฤดูกาล 2022/23
- แชมป์พรีเมียร์ลีก : 5 สมัย
- ฤดูกาล 2017/18
- ฤดูกาล 2018/19
- ฤดูกาล 2020/21
- ฤดูกาล 2021/22
- ฤดูกาล 2022/23
- แชมป์คาราบาวคัพ : 4 สมัย
- ฤดูกาล 2017/18
- ฤดูกาล 2018/19
- ฤดูกาล 2019/20
- ฤดูกาล 2020/21
- แชมป์เอฟเอคอมมิวนิตี้ชิลด์ : 2 สมัย
- ฤดูกาล 2018
- ฤดูกาล 2019
- แชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ : 1 สมัย
- ฤดูกาล 2023
- ถุงมือทองคำพรีเมียร์ลีก : 3 สมัย
- ฤดูกาล 2019/20
- ฤดูกาล 2020/21
- ฤดูกาล 2021/22
เอเดอร์สัน(Ederson)
เอเดอร์สัน (Ederson) เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ 2536 อายุ 30 ปี เกิดในเมือง โอซัสโก ของประเทศ บราซิล ซึ่งปัจจุบันกำลังค้าแข้งอยู่กับสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรชั้นนำในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อ หมายเลข 31 ลงเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับสโมสร เอเดอร์สัน ถือเป็นนักเตะที่อยู่กับแมนฯซิตี้ มาอย่างยาวนานจนสามารถคว้าแชมป์กับสโมสรได้อย่างมากมาย
การเริ่มต้นในอาชีพค้าแข้งของ เอเดอร์สัน
เอเดอร์สัน ได้เริ่มต้นในอาชีพค้าแข้งด้วยการเข้าร่วมทีมเยาวชนของ เซาโปโล และ หลังจากที่เจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับสโมสรเป็นระยะเวลาหนึ่งฤดูกาล เอเดอร์สัน ก็ได้ย้ายไปค้าแข้งใน โปรตุเกส กับ เบนฟิก้า เมื่ออายุ 16 ปี และ ถูกปล่อยตัวให้กับสโมสรดิวิชั่นสองอย่าง ริเบเรา ในปี 2554 จากนั้นเจ้าตัวก็ถูกจับเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการในอาชีพค้าแข้งกับสโมสร ริโอ อาเว ใน พรีเมียราลีกา พร้อมกับเซ็นสัญญาขาแข้งให้กับสโมสรจนถึงปี พ.ศ. 2557
เอเดอร์สัน ย้ายเข้าร่วมทีม เบนฟิก้า ในโปรตุเกส
ในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เบนฟิก้า ได้ทำการค้าตัว เอเดอร์สัน กลับมาขาแข้งในโปรตุเกส อีกครั้งพร้อมกับเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในเดือน กรกฎาคม ด้วยมูลค่า 500,000 ยูโร พร้อมกับตั้งค่าฉีกสัญญาของเขาไว้ที่ 45 ล้านยูโร และ ได้รับโอกาสให้ลงสนามให้กับสโมสรเป็นเกมแรก ในเกมที่พบกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในศึก พรีไมราลีกา ของวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559 และ หลังที่เขาได้รับโอกาสเข้าร่วมทีมชุดใหญ่ เอเดอร์สัน ก็สามารถประสบความสำเร็จในการพาสโมสร เบนฟิก้า คว้าแชมป์ พรีไมราลีกา สมัยที่ 35 มาครองได้สำเร็จ พร้อมกับเป็นการคว้าแชมป์ลีก โปรตุเกส ได้ถึง 3 สมัยติดต่อกันอีกด้วย
แมนฯซิตี้ คว้าตัว เอเดอร์สัน เฝ้าเสาให้กับสโมสร
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560 แมนฯซิตี้ ได้บรรลุข้อตกลงกับทาง เบนฟิก้า ในการคว้าตัว เอเดอร์สัน เข้ามาเฝ้าเสาใน พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร ซึ่งการย้ายทีมในเวลานั้นทำให้เจ้าตัวกลายเป็นผู้รักษาประตูที่มีการย้ายทีมที่แพงที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกในขณะนั้น ซึ่งการย้ายมาของ เอเดอร์สัน ถือว่าเจ้าตัวนั้นเป็นตัวเลือกแรกภายใต้การทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ ได้รับโอกาสให้ลงเปิดตัวในการแข่งขันให้กับสโมสรในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ในเกมเยือนที่บุกชนะ ไบรท์ตัน 2-0
ก่อนที่เจ้าตัวจะสามารถเก็บครีมชีสได้เป็นครั้งแรกในการค้าแข้งให้กับตัวเองในเกมที่เจอกับ ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 9 กันยายน และ ด้วยฟอร์มการเล่นของเขากับสโมสร จึงทำให้เขานั้นได้รับรางวัลถุงมือทองคำด้วยการรักษาครีมชีสมากถึง 16 เกมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019-20 และ จากผลงานของ เอเดอร์สัน ในฤดูกาลที่ผ่านมาเจ้าตัวนั้นก็ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการพา แมนฯซิตี้ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ มาครองได้สำเร็จ
สไตล์การเล่นฟุตบอลของ เอเดอร์สัน
เอเดอร์สัน เป็นผู้รักษาประตูที่ได้รับคำชมอย่างกว้างขวางในเรื่องของความคล่องแคล่ว ว่องไว มีความแข็งแกร่งของร่างกายที่เป็นเลิศ มีสติปัญญา และ ไหวพริบในการเซฟลูกฟุตบอลได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเจ้าตัวนั้นถือว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ใช้การเซฟด้วยมือได้อย่างโดดเด่นแล้ว เขายังมีการออกบอลด้วยเท้าให้กับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
การเข้าร่วมทีมชาติบราซิล ของ เอเดอร์สัน
เอเดอร์สัน มีชื่อเข้าร่วมทีมชาติบราซิล ครั้งแรกในรายการแข่งขัน โคปาอเมริกาเซนเตนาริโอ ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกตัดชื่อออกจากการแข่งขันในรายการนี้เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ แต่หลังจากนั้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 เจ้าตัวก็มีชื่อเข้าร่วม 23 คนของทีมชาติบราซิล เพื่อลงแข่งขันในรายการโคปาอเมริกา 2019 ก่อนที่เขาจะได้รับโอกาสให้เปิดตัวในทัวร์นาเมนต์สำคัญให้กับทีมชาติ บราซิล
ด้วยการออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และ สามารถเก็บคลีนชีตในชัยชนะเหนือ เปรู 4–0 ในโคปาอเมริกา 2021และ ด้วยฟอร์มการเล่นของเขากับสโมสรจึงทำให้เขามีชื่อติดทีมชาติอีกครั้งในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ในการแข่งฟุตบอลโลก 2020 ซึ่ง เอเดอร์สัน เข้ามาร่วมทีมชาติในครั้งนี้ในฐานะผู้รักษาประตูอันดับที่สองต่อจาก อลิสสัน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูจอมหนึบจากสโมสร ลิเวอร์พูล
เกียรติประวัติและรางวัลในเส้นทางฟุตบอลอาชีพ
ริโออเวนิว
- ทาซา เด โปรตุเกสรองแชมป์: 2013–14
- ทาซาดาลีการองชนะเลิศ: 2013–14
เบนฟิก้า
- พรีมีรา ลีกา : 2015–16 , 2016–17
- ทาซา เด โปรตุเกส: 2016–17
- ทาซาดาลีกา: 2015–16
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- พรีเมียร์ลีก : 2017–18,2018–19,2020–21,2021–22,2022–23
- เอฟเอ คัพ : 2018–19,2022–23
- อีเอฟแอล คัพ : 2017–18,2018–19,2019–20,2020–21
- เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ : 2018,2019
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : 2022–23;รองชนะเลิศ: 2020–21
- ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2023
บราซิล
- โคปาอเมริกา : 201
รางวัลส่วนตัว
- Oทีมเกมแห่งปี: 2016
- ทีมเอสเจพีเอฟ พรีไมรา ลีกา แห่งปี : 2016
- ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของ LPFP Primeira Liga : 2016–17
- รายชื่อ 11 ตัวจริงของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2017
- ทีมพีเอฟเอพรีเมียร์ลีกแห่งปี : 2018–19,2020–21
- ถุงมือทองคำพรีเมียร์ลีก : 2019–20 , 2020–21,2021–22
- รายชื่อนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2020–21
เอเดอร์สัน ถือเป็นผู้รักษาประตูอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์กับสโมสร แมนฯซิตี้ มาอย่างมากมาย และ ด้วยผลงานของเจ้าตัวในไลน์ฤดูกาลที่ผ่านมานั้นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเขานั้นคู่ควรกับการเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งให้กับทัพ เรือใบสีฟ้า มากน้อยแค่ใหน
อ้างอิงข้อมูล : wikipedia